ข้อ 18. |
คณะกรรมการสมาคม จะต้องปฏิบัติตามพระราชบัญญัติการกีฬาแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2558 และพระราชบัญญัติส่งเสริมกีฬาอาชีพ พ.ศ. 2556 รวมทั้ง กฎข้อบังคับต่างๆ ที่ออกตามความในพระราชบัญญัติดังกล่าว |
ข้อ 19. |
คณะกรรมการสมาคม มีหน้าที่บริหารกิจการของสมาคมให้บรรลุผลตามวัตถุประสงค์ และมีอำนาจที่จะกำหนดระเบียบใดๆ เกี่ยวกับการบริหารกิจการของสมาคม ตลอดจนการกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมสำหรับการแข่งขันและอื่นๆ และมีอำนาจที่จะแก้ไขเพิ่มเติมหรือยกเลิกระเบียบดังกล่าว |
ข้อ 20. |
คณะกรรมการสมาคม อาจจะพิจารณาแต่งตั้งคณะอนุกรรมการหรือคณะทำงานเฉพาะกิจ เพื่อช่วยเหลือในกิจการของสมาคมได้ตามความเหมาะสม และอาจเชิญบุคคลภายนอกเป็นอนุกรรมการด้วยก็ได้ การปฏิบัติงานของคณะอนุกรรมการหรือคณะทำงานจะต้องได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการสมาคมก่อนทุกครั้ง โดยมีเสียงข้างมากเห็นชอบด้วย |
ข้อ 21. |
ให้มีการประชุมคณะกรรมการสมาคมอย่างน้อยเดือนละครั้ง เว้นแต่จะมีเหตุขัดข้องไม่สามารถจะคาดหมายล่วงหน้าได้ อาจจะงดหรือเลื่อนการประชุม และหากมีเรื่องอันควรประชุมเร่งด่วน ให้มีการประชุมคณะกรรมการเป็นกรณีพิเศษได้ |
ข้อ 22. |
การประชุมตามข้อ 21 ให้นายกสมาคมเป็นผู้กำหนดวัน, เวลา, สถานที่ และระเบียบวาระการประชุม โดยให้เลขาธิการเป็นผู้ออกหนังสือเชิญประชุมล่วงหน้าก่อนวันประชุมอย่างน้อย 7 วัน เว้นแต่ในกรณีเร่งด่วน และองค์ประชุมประกอบด้วยกรรมการสมาคมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่ง และให้ใช้ข้อบังคับสมาคมว่าด้วยการประชุมใหญ่สามัญประจำปีโดยอนุโลม กรรมการสมาคมที่ไม่สามารถเข้าร่วมประชุมได้ อาจส่งผู้แทนเข้าร่วมประชุมแทนได้ โดยมอบหมายเป็นลายลักษณ์อักษรเสนอต่อประธานที่ประชุม และมีสิทธิ์ออกเสียงลงคะแนนได้ในระเบียบวาระการประชุมที่กำหนดและแจ้งให้ทราบล่วงหน้าแล้ว สำหรับระเบียบวาระอื่นๆ ไม่มีสิทธิ์ออกเสียงลงคะแนน |
ข้อ 23. |
ให้มีการประชุมใหญ่สามัญประจำปี ระหว่างเดือนมกราคม - เมษายนของทุกปี โดยมีระเบียบวาระ ดังต่อไปนี้
23.1 |
ประธานแจ้งให้ที่ประชุมทราบ |
23.2 |
รับรองรายงานการประชุมใหญ่ครั้งที่แล้ว |
23.3 |
แถลงผลการดำเนินงานของสมาคมที่ผ่านมาในรอบปี |
23.4 |
แถลงบัญชีรายรับรายจ่าย และบัญชีงบดุลให้ที่ประชุมใหญ่อนุมัติ |
23.5 |
แก้ไขหรือเพิ่มเติมข้อบังคับสมาคม (ถ้ามี) |
23.6 |
เลือกตั้งนายกสมาคม เมื่อครบกำหนดตามวาระ (ถ้ามี) |
23.7 |
แต่งตั้งผู้สอบบัญชีประจำปี |
23.8 |
เรื่องอื่นๆ (ถ้ามี) |
|
ข้อ 24. |
การประชุมใหญ่วิสามัญอาจกำหนดขึ้นได้ หากคณะกรรมการสมาคมเห็นสมควร หรือเมื่อสมาชิกสามัญจำนวนไม่น้อยกว่าหนึ่งในสามของสมาชิกสามัญทั้งหมด ร้องขอให้มีการประชุม โดยเสนอเป็นหนังสือต่อเลขาธิการสมาคม และจะต้องแสดงเหตุผลและระบุหัวข้อเรื่องที่ประชุมด้วย |
ข้อ 25. |
ในกรณีที่เลขาธิการสมาคม ได้รับหนังสือตามข้อ 24 แล้ว ให้เรียกประชุมภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับหนังสือร้องขอ หากพ้นกำหนดแล้วคณะกรรมการสมาคมยังไม่เรียกประชุมใหญ่วิสามัญ ก็ให้สมาชิกสามัญที่เป็นผู้ร้องขอให้เรียกประชุม มีอำนาจเรียกประชุมแทนได้ |
ข้อ 26. |
ในการประชุมใหญ่สามัญ หรือวิสามัญ นายกสมาคมจะมอบหมายให้เลขาธิการออกหนังสือเชิญประชุม พร้อมด้วยระบุระเบียบวาระการประชุม, วัน, เวลา, และสถานที่ ให้สมาชิก และกรรมการสมาคมทราบล่วงหน้าก่อนวันประชุมไม่น้อยกว่าสิบห้าวัน เว้นแต่ในกรณีเร่งด่วน |
ข้อ 27. |
ในการประชุมใหญ่สามัญประจำปี หรือวิสามัญ ต้องมีสมาชิกสามัญและคณะกรรมการสมาคมอย่างน้อยกึ่งหนึ่งจึงจะถือว่าครบองค์ประชุม |
ข้อ 28. |
ในกรณีประชุมใหญ่สามัญ หรือวิสามัญนั้น สมาชิกสามัญและกรรมการสมาคม มีสิทธิ์ลงคะแนนได้คนละหนึ่งคะแนน หากมีคะแนนเสียงเท่ากันให้ประธานที่ประชุมออกเสียงชี้ขาด |
ข้อ 29. |
ให้นายกสมาคมเป็นประธานที่ประชุม หากนายกสมาคมไม่อยู่ประชุม หรือไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้อุปนายกสมาคมตามลำดับอาวุโส เป็นประธานแทน ในกรณีนายกสมาคมและ อุปนายกสมาคมไม่อยู่ประชุม ให้กรรมการสมาคมพิจารณาเลือกผู้ที่เหมาะสมเป็นประธานได้ |