รมย์ สุรินทร์ คว้าเหรียญทองบิลเลียด 3 สมัยซ้อน ปิดฉากเอเชี่ยนอินดอว์เกมส์สำหรับทีมไทยด้วยเหรียญทองที่สองยิ่งใหญ่ ส่งผลให้ทีมไทยคว้าอันดับ 3 รองจากเกาหลีใต้และจีนเท่านั้น

รมย์ สุรินทร์ ระหว่างการแข่งขันรอบรองชนะเลิศ

รมย์ สุรินทร์ ระหว่างการแข่งขันรอบรองชนะเลิศ

รมย์ สุรินทร์ คว่ำเวียดนามในรอบชิง 3-1 เฟรม คว้าเหรียญทองที่สองยิ่งใหญ่

“รมย์ สุรินทร์” ประพฤติ ชัยธนสกุล นักสอยคิวรุ่นใหญ่ของไทย ยังคงโชว์ความเก๋าผงาดคว้าเหรียญทองมาครองในอินดอร์เกมส์ ได้ 3 สมัยติดต่อกัน ในการแข่งขันบิลเลียด ประเภทบุคคลชาย ที่ซองโด คอนเวนเซีย ปิดฉากสอยคิวของทืมไทยในเอเชี่ยนอินดอร์ เกมส์ที่ 2 เหรียญทอง ทะลุเป้าที่ตั้งไว้ 1 เหรียญทอง

โดยรอบ 16 คน รมย์ เปิดฉากด้วยการชนะ Sourav Kothari จากอินเดีย 3-0 เกม ด้วยสกอร์ 101-58, 101-47 และ 100-92 จากนั้นในรอบ 8 คน รมย์ ก็ปราบ Nguyen Thahn Long จากเวียดนาม 3-0 ด้วยสกอร์ 100-83, 101-66 และ เฟรมสุดท้าย เฉือนเอาชนะไปเพียง 101-99 ทะลุเข้าสู่รอบตัดเชือก

ในรอบรองชนะเลิศ รมย์ต้องแข่งถึง 5 เฟรม ก่อนจะเฉือนเอาชนะ Aung Htay จากพม่า ไปอย่างบีบหัวใจ 3-2 เฟรม โดยรมย์ออกนำไปก่อน 2-0 เฟรม ด้วยสกอร์ 101-72 และ 101-11 แต่ Augn Htay ก็ไล่ตีเสมอมาที่ 2 เฟรมเท่ากัน โดยรมย์แพ้ไปในเฟรมที่ 4 และ 5 ด้วยสกอร์ 70-100 และ 37-101 ต้องมาตัดสินกันในเฟรมสุดท้าย ซึ่งรมย์เอาชนะไป 100-62  เข้าไปชิงชนะเลิศกับ Nguyen Thanh Binh จากเวียดนาม ที่ปราบ “วัช หาดใหญ่” ธวัช สุจริตธุรการ ลงได้ 3-1 ในรอบ 8 คน และมาโค่นแชมป์โลก Peter Gilchrist จากสิงคโปร์ มาได้ 3-2

ปรากฏว่าในเฟรมแรก นักสอยคิวเวียดนามออกมาแทงขึ้นนำก่อน 1-0 เฉือนเอาชนะรมย์ไปก่อน 101-97 ในเฟรมที่สอง รมย์ เข้าเบรคไม้เดียว 93 แต้ม ชนะไป 100-9 ไล่ตีเสมอเป็น 1-1 เฟรม จากนั้น รมย์ ยังออกแทงตบเปลี่ยนแคนนอนเก็บชัยขึ้นนำ 2-1 ด้วยสกอร์ 100-19 และในเฟรมที่สี่ ทั้งสองฝ่ายต่างออกคิวกันได้สูสี สกอร์อยู่ที่ รมย์ ตามหลัง 94-96 ก่อนที่ Nguyen Than Binh จะแทงแคนนอนพลาด ทำให้ รมย์ ออกมากดคว้าชัยไปอย่างตื่นเต้น 3-1 เกม ด้วยสกอร์ 100-96 คว้าเหรียญทองอินเดอร์เกมส์ 3 สมัยติดต่อกัน เป็นคนแรกของประเทศไทยอีกด้วย

ภายหลังคว้าเหรียญทองประวัติศาสตร์ “รมย์ สุรินทร์” เปิดเผยว่า เกมวันนี้ตื่นเต้นและกดดันอย่างมาก เพราะรู้ว่านี่คือการชิงเหรียญสุดท้ายของทัพนักกีฬาไทย อีกทั้งนักกีฬาเวียดนามก็ออกคิวได้ดีและชนะแชมป์โลกมาได้ ส่วนผมก็ตั้งใจอย่างเต็มที่ที่จะคว้าเหรียญทองมาครองให้ได้ อย่างที่ตั้งใจเอาไว้และก็ทำได้สำเร็จ ต้องขอขอบคุณผู้ใหญ่ทุกท่านในสมาคมไม่ว่าจะเป็น คุณสินธุ พูนศิริวงศ์ นายกสมาคมกีฬาบิลเลียดฯ, คุณศักดา รัตนสุบรรณ อุปนายกฯ, คุณสุนทร จารุมนต์ ผู้จัดการทีม ที่ดูแลรวมถึงสนับสนุนด้วยดีเสมอมา

ทั้งนี้จากการที่ “รมย์ สุรินทร์” คว้าเหรียญทองมาครองได้นั้น ทำให้เขากลายเป็นนักกีฬาประวัติศาสตร์ที่คว้าเหรียญทองอินดอร์เกมส์มาครองได้สำเร็จ  3 สมัยติดต่อกัน จาก 3 ครั้งที่ลงเล่น เริ่มจากมาเก๊า ปี 2007, เวียดนาม ปี 2009 และเกาหลีใต้ ปี 2013 นอกจากนี้ครั้งแรกที่ รมย์ สุรินทร์ ได้เหรียญทองในมหกรรมกีฬาระดับเอเชีย ก็ทำได้ครั้งแรกที่เกาหลีใต้ ในศึกเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 14 ปี 2002 ที่บูซาน ซึ่งครั้งนั้นได้เหรียญทองทั้งประเภทเดี่ยว และประเภทคู่

ส่วน ธวัช สุจริตธุระการ หรือ วัช หาดใหญ่ ที่ลงสนามในประเภทนี้อีกคนหนึ่งของไทย ต้องมาพลาดท่าพ่ายนักบิลเลียดจากเวียดนาม Nguyen Thanh Binh ในรอบ 8 คน ไป 1 ต่อ 3 เฟรม โดยวัชถูกนำไปก่อนใน 2 เฟรมแรก 75-101 และ 30-101 วัช มาตีคืนได้ในเฟรมที่สาม เอาชนะไป 102-31 แต่มาเสียท่าในเฟรมที่สี่ 82-101 ตกรอบ 8 คนชวดเหรียญทองแดงไปไปอย่างน่าเสียดาย 

สำหรับนักสอยคิวคนสุดท้าย ในประเภทสนุกเกอร์ชายเดียวของไทย สุพจน์ แสนหล้า หรือ แจ็ค เชียงใหม่ ไม่สามารถหยิบเหรียญกลับบ้านได้ หลังพ่าย Kamal Chawla จากอินเดียไป 1-3 เฟรม ด้วยสกอร์ 7-99, 78-1, 28-98, 32-63 และ 7-72 ตกรอบ 16 คนเป็นคนสุดท้าย

สรุปเหรียญทองในการแข่งขันบิลเลียดสปอร์ต

ทีมสอยคิวไทย ทำผลงานมาเป็นอันดับ 3 โดยคว้าได้ 2 เหรียญทอง จากสนุกเกอร์ 6 แดงหญิง จาก อมรรัตน์ อ่วมด้วง และบิลเลียดชาย จาก ประพฤติ ชัยธนสกุล 

ส่วนอันดับ 1 ได้แก่ เกาหลีใต้ ที่ทำได้ 3 เหรียญทอง และ 1 เหรียญทองแดง และอันดับ 2 ได้แก่ จีน ที่ทำได้ 2 เหรียญทอง และ  1 เหรียญทองแดง โดยทีมไทย พ่ายจีนไปเพียง 1 เหรียญทองแดงเท่านั้น

Go to www.cuethong.com