"ต๋อง"ช็อค!ถูกปฏิเสธวีซ่าตราหน้าเป็นบุคคลอันตราย

          ต๋อง ศิษย์ฉ่อย” ช็อค!โดนปฏิเสธวีซ่าเข้าดวลคิวที่เยอรมนี แถมโดนตีตรากลับมาว่า เป็นบุคคลที่เป็นภัยคุกคามต่อประเทศเชงเก้น เจ้าตัวโอดมุ่งมั่นซ้อมหวังไปเก็บคะแนนเพื่อรักษาอันดับโลก วอนทุกฝ่ายร่วมช่วยเหลือ ไม่อยากให้ใครเป็นแบบตน

          “ต๋อง ศิษย์ฉ่อย” รัชพล ภู่โอบอ้อม นักสอยคิวขวัญใจชาวไทย อดีตมือ 3 ของโลก เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันศุกร์ที่ 25 กันยายน 2558 ที่ผ่านมา ณ ที่ทำการสมาคมกีฬาบิลเลียดแห่งประเทศไทย ภายในราชมังคลากีฬาสถาน หัวหมาก ว่า ได้ถูกสถานฑูตเยอรมนี ปฏิเสธการออกวีซ่า ในการขอเพื่อเดินทางไปแข่งขันสนุกเกอร์สะสมคะแนนโลก รายการยูโรเปี้ยนทัวร์ รายการที่ 3 “รัวห์ โอเพ่น” ที่มัลไฮม์ ประเทศเยอรมนี ระหว่างวันที่ 7-11 ตุลาคมนี้

            โดยเอกสารที่แนบมานั้นระบุว่า ต๋อง ศิษย์ฉ่อย ไม่ผ่านเกณฑ์ข้อที่ 6 นั่นคือ ประเทศสมาชิกพิจารณาว่าเป็นภัยคุกคามต่อสาธารณะ ความปลอดภัยต่อประชาชนตามมาตรา 19 วรรค 2ของ Regulation (EC) No. 562/2006 (พรหมแดนเชงเก้น) ขณะที่นักกีฬาไทยคนอื่น ๆ ไม่มีปัญหาทั้ง “แจ๊ค สระบุรี”เดชาวัต พุ่มแจ้ง, “เอฟ นครนายก” เทพไชยา อุ่นหนู, “หมู ปากน้ำ” นพพล แสงคำ และ”แมน นครปฐม”ธนวัฒน์ ถิรพงศ์ไพบูลย์ ผ่านทุกคนพร้อมได้วีซ่าคนละ 1 ปี

            “ผมไม่เข้าใจว่าอะไรเกิดขึ้นกับผม ผมไม่เคยทำผิดอะไรเลย มันเป็นเหตุการณ์ที่เหมือนกับเมื่อ 2 ปีก่อน ที่ผมถูกส่งตัวกลับจากประเทศเยอรมนี ที่ผมไปแข่งรายการนี้ที่มัลไฮม์ ซึ่งครั้งนั้นผมในฐานะรุ่นพี่นำนักกีฬาไทย ไปทำวีซ่าเชงเก้นที่อังกฤษ ทุกคนได้วีซ่าคนละ 6 เดือน แต่ผมเป็นคนนำไปแท้ ๆ กลับได้ 4 วัน พอไปถึงสนามบินเยอรมนี ที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง เจ้าหน้าที่ของเขาไม่ให้ผมเข้าประเทศ ทั้งที่ผมเอาเอกสารการแข่งขัน สถานที่แข่งขัน และที่พัก ยืนยันว่ามาทำการแข่งขันจริง เขาก็ไม่เชื่อ และบอกว่าผมจะหนีเข้าประเทศ จากนั้นก็กักผมอยู่ในสนามบิน 12 ชั่วโมง จากนั้นก็ให้ตำรวจพาขึ้นเครื่อง ซึ่งผมรู้สึกอับอายมาก ๆ หนำซ้ำเขายังสแตมป์ให้ผมเป็นอาชญากร ในการหลบหนีเข้าเมืองทั้งที่ผมไม่ได้มีความผิดอะไรเลย"

            นักสอยคิวไอดอลของไทย กล่าวต่อไปอีกว่า ถ้าไม่ลงแข่งขัน เวิล์ด สนุกเกอร์จะปรับ 1 พันปอนด์ เกือบ 5 หมื่นบาทไปแบบฟรี ๆ ถือว่าเสียหายมาก ตอนนี้ผมเตรียมเข้าปรึกษาผู้ใหญ่ของสมาคมฯ เพื่อหาทางออกเรื่องนี้ เนื่องจากผมมุ่งมั่นจะแข่งขันในปีนี้อย่างมาก เพราะต้องการทุกคะแนนเพื่อรักษาสถานะนักกีฬาอาชีพเอาไว้ แต่มาเจอเรื่องแบบนี้ทำให้ผมมึนจนทำอะไรไม่ถูก

            “ผมขอฝากไปยังผู้ใหญ่ในวงการกีฬาด้วยว่า อยากให้ช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกให้กับนักกีฬาอาชีพ เพราะเราไปเพื่อทำหน้าที่แข่งขัน ทำชื่อเสียงให้กับประเทศ อย่างเช่นตัวผมแข่งขันมากว่า 30 ปี เจอเหตุการณ์แบบนี้ทำให้สภาพจิตใจย่ำแย่มาก ๆ หวังว่ากรณีของผมจะเป็นกรณีศึกษา และเป็นกรณีสุดท้าย” ต๋อง กล่าวในที่สุด