ประมวล จันทร์ทัด โค่น สุชาครีย์ พุ่มแจ้ง 5-4 คว้าแชมป์ประเทศไทย ปี 2555
เฟรมที่แปด ขวัญยังสู้ไม่ถอย ไล่ตีเสมอต้องตัดสินเฟรมสุดท้ายการแข่งขันสนุกเกอร์ชิงแชมป์ประเทศไทย รายการ แสงโสม โคราชคัพ รอบชิงชนะเลิศ ที่ห้างสรรพสินค้าคลังพลาซ่า จ.นครราชสีมา เป็นการพบกันของมือวางอันดับที่ 5 ของไทย สุชครีย์ พุ่มแจ้ง หรือ ขวัญ สระบุรี พบกับม้ามืดเจ้าของเบรคสูงสุดของรายการ ประมวล จันทร์ทัด หรือ แมน เมืองสมุทร ที่ผ่านเข้ามาถึงรอบชิงชนะเลิศได้เป็นครั้งแรก โดยมีแฟนสนุกเกอร์เข้าชมการแข่งขันเต็มอัฒจรรย์ทั้งสองด้าน เฟรมแรก สุชาครีย์เป็นฝ่ายออกนำไปก่อน เข้าเบรค 4 ชุด 30 แต้ม ขึ้นนำไป 30-0 ประมวล ตามมาในไม้ต่อไป แทงไป 3 แดง 2 ดำ 1 น้ำเงิน ไล่ตามมาที่ 22-30 แล้งโดนสุชาครีย์หนีไปอีก 4 ชุด อีก 30 แต้ม นำเป็น 60-22 ประมวลไม่ยอมน้อยหน้า กดเบรคอีก 4 ชุด ตามมา 30 แต้มเช่นกันท่ 52-60 ต้องมาชิงกันที่ลูกสี สุชาครีย์เป็นฝ่ายได้เหลือง แต่มาเสีย เขียวถึงชมพู ทำให้ ประมวล เอาชนะไปก่อนในเฟรมแรก 70-62 คะแนน ขึ้นนำไปก่อน 1 ต่อ 0 เฟรม ใช้เวลาไปเกือบ 30 นาที เฟรมที่สอง สุชาครีย์ จับเบรคได้หลังจากที่เสียไป 2 แดง 1 ดำ 9 แต้ม เข้าเบรค 6 ชุดครึ่ง นำไปก่อน 42-9 ประมวล ตอบโต้ด้วยเบรค แดง-ดำอีก 4 ชุด 32 คะแนน ไล่ตามมาที่ 32-42 แต่มาโดนสุชาครีย์จับเบรคอีก 1 ไม้ ทำไปอีก 2 แดงและเหลืองถึงน้ำเงิน ทำไปอีก 25 แต้ม ชนะไปในเฟรมที่สอง ด้วยสกอร์ 67-32 ตีเสมอมาที่ 1 เฟรมเท่ากัน เฟรมที่สาม สุชาครีย์ เปิดนำไปก่อน 2 ชุดดำกับอีก 1 แดง 17 แต้ม ประมวล โต้กลับ 2 ชุดเล็ก กลับมานำไป 32-17 แล้วมาได้ฟาล์วอีก 4 แต้ม นำไป 36-17 เกมออกเบียดและไม่มีใครเก็บเบรคยาวได้อีก หมด 15 แดง สุชาครีย์ตามหลังอยู่ 26-38 คะแนน ประมวลเก็บเหลือง ส่วยสุชาครีย์ได้เขียว ตามอยู่ที่ 29-40 และเป็นประมวลทีเก็บน้ำตาลและน้ำเงินได้ เอาชนะไป 49-29 คะแนน ใช้เวลาในเฟรมนี้ไปกว่า 30 นาที ประมวลกลับมานำ 2 ต่อ 1 เฟรม เฟรมที่สี่ กลับมาเป็นของสุชาครีย์อีกครั้ง เมื่อเข้าเบรคได้ 2 ไม้ 37 และ 29 แต้ม ขึ้นนำไปขาดลอยที่ 70-0 และชนะไปในเฟรมนี้ 76-16 ไล่ตีเสมอมาเป็น 2 ต่อ 2 เฟรมเท่ากันอีก เฟรมที่ห้า ประมวลเก็บชุดน้ำเงินไปก่อน แล้วเสียฟาล์วไป 2 ไม้ พร้อมกับเสียเบรคให้สุชาครีย์ไปอีก 3 ชุด ตามหลังสุชาครีย์อยู่ที่ 6-26 แต่มาจับเบรคยาวได้ 9 ชุด พร้อมเก็บเหลืองถึงน้ำเงิน โต้กลับไปด้วยเบรค 79 แต้ม เอาชนะไปในเฟรมที่ฟ้า ที่สกอ์ 85-26 กลับขึ้นมานำ 3 ต่อ 2 เฟรม เฟรมที่หก เป็นเฟรมที่พลิกผันอย่างเหลือเชื่อ หลังจากที่สุชาครีย์เข้าเบรคนำไปก่อนถึง 62 แต้ม โดยแทงไป 8 ชุดครึ่ง แล้วมาพลาดสีชุดที่เก้า ทำให้แต้มไม่ขาด ประมวลค่อย ๆ ไล่ตามมาทีชุดสองชุด พร้อมเก็บสีมาจนได้ชิงสองหนึ่ง ขวัญต้องการชมพูเพียงลูกเดียว แต่ไม่สามารถเก็บชมพูได้ แถมประมวลได้โชคช่วยอีกครั้ง แทงชมพูแล้วขาวไปโหม่งจมูกหลุมกลางกลับมาหาดำ แล้วตบดำลงไป แซงเอาชนะไปอีกในเฟรมที่หก ขึ้นแท่นนำไปเป็น 4 ต่อ 2 เฟรม เฟรมที่เจ็ด สุชาครีย์หลังชนฝา แพ้อีกไม่ได้ แต่ก็ยังใจสู้ เก็บเบรคยาวไปก่อน 7 ชุด 44 แต้ม แล้วตามด้วยเบรคชุดใหญ่อีกเป็นชุดที่สอง ทำไปอีก 7 แดง บวกเหลืองถึงน้ำตาลอีก 52 แต้ม ชนะไปขาดลอย 101-0 ไล่จี้มาเป็น 3 ต่อ 4 เฟรม เฟรมที่แปด สุชาครีย์เริ่มมีความมั่นใจขึ้น ยังคงเข้าเบรคนำไปอีกในไม้แรก 4 ชุดครึ่ง 31 แต้ม ตามด้วยเบรคย่อยอีก 2 ไม้ ออกนำไปก่อนที่ 38-0 ประมวลมาได้คืน 2 ชุดน้ำเงิน 12 แต้ม แล้วโดนสุชาครีย์บีบเกม เก็บแต้มเอาชนะไปได้อีกในเฟรมนี้ 58-12 คะแนน ไล่ตีเสมอได้สำเร็จที่ 4 เฟรมเท่ากัน ต้องไปตัดสินกันในเฟรมสุดท้าย เฟรมที่เก้า เป็นเฟรมที่ทั้งคู่ต่างทำคะแนนเบียดกันมาตั้งแต่เริ่ม โดย ประมวลออกนำไปก่อน 2 ไม้ 12 แต้ม สุชาครีย์ตามมาตีเสมอกันที่ 15-15 แล้งประมวลหนีออกไปเป็น 31-21 สุชาครีย์ทำท่าจะปิดแมตช์ได้สำเร็จ เมื่อเข้าเบรคยาวตบ 4 แดงสุดท้าย ตามด้วยเหลือง แต่มาพลาดเขียว ได้ไป 33 แต้ม ขึ้นนำไปที่ 54-31 แล้วมาได้สนุ้กหลังน้ำตาล สุชาครีย์แก้ครั้งแรกไม่โดน เสียไป 4 แต้ม ประมวลไล่มาที่ 35-54 แล้วมากวาดเขียวถึงดำไม้เดียว 25 แต้ม ชนะไปในที่สุด 60-54 คว้าแชมป์ประเทศไทยปี 2555 ไปครอง พร้อมรางวัลเบรคสูงสุด 141 คะแนน ได้รับถ้วยแชมป์ประเทศไทย จาก นายสกล วรรณพงษ์ รองผู้ว่าการ การกีฬาแห่งประเทศไทย ที่กรุณาให้เกียรติเดินทางจากกรุงเทพฯ มาเป็นประธานในการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ
**อันดับคะแนนหลังจบฤดูกาล ปี 2555**
รอบรองฯคู่ที่สอง ขวัญ สระบุรี กด เอ๋ พนม 4-0 เช้าชิงฯเป็นปีที่สองติดต่อกันสำหรับการแข่งขันรอบรองชนะเลิศคู่ที่สอง ระหว่าง สุชาครีย์ พุ่มแจ้ง หรือ ขวัญ สระบุรี พบกับ พนมไพ พ่อวิเศษ หรือ เอ๋ พนม ที่แข่งกันเมื่อเวลา 16.00 น. เฟรมที่หนึ่ง สุชาครีย์ อาศัยความเก๋าเกมกว่า เข้าเบรค 57 แต้ม นำไปถึง 66-10 เมื่อเหลือ 2 แดง พนมไพลุกขึ้นมาตบ 2 แดงกินดำ 2 ชุด 16 แต้ม แล้วตามด้วยเหลืองถึงน้ำตาลในไม้ต่อมาอีก 9 แต้มแต่ก็ไม่พอ ยอมแพ้ไปก่อนในเฟรมแรก 35-66 เฟรมที่สอง เป็นเฟรมที่ สุชาครีย์ พลาดรางวัลเซ็นจูรี่เบรคไปอย่างน่าเสียดาย โดยเข้าเบรคไป 10 ชุด พร้อมกวาดเหลืองถึงดำไม้เดียวหมดโต๊ะ แต่ได้ไปเพียง 98 แต้ม ชนะไปในเฟรมนี้ 110-9 ขึ้นนำไป 2 ต่อ 0 เฟรม เฟรมที่สาม ยังคงเป็น สุชาครีย์ ที่คุมรูปเกม ทำคะแนนได้อยู่ฝ่ายเดียว โดยมีเบรคอีก 47 แต้ม แล้วเอาชนะไปในเฟรมที่สาม 69-10 ขึ้นแท่นนำไป 3 ต่อ 0 เฟรม เฟรมที่สี่ สุชาครีย์ เครื่องร้อน คุมรูปเกมทำคะแนนอยู่ฝ่ายเดียวเหมือนเฟรมที่ผ่านมา พร้อมทำเบรค 15, 22 และ 28 แต้ม เอาชนะไปอีก 69-9 คะแนน ฉลุยเข้่าไปชิงชนะเลิศในวันอาทิตย์ กับ ประมวล จันทร์ทัด เริ่มแข่งขันเวลา 13.30 น. โดยทาง สทท 11 จะทำการถ่ายทอดสดในเวลา 14.30 น. เช่นเคย
แมน เมืองสมุทร หยุด บิ๊ก สระบุรี 4-1 เข้าชิงแชมป์ประเทศไทยครั้งแรกการแข่งขันสนุกเกอร์ชิงแชมป์ประเทศไทย รายการแสงโสมโคราชคัพ ที่ห้างสรรพสินค้าคลังพลาซ่า จ.นครราชสีมา รอบรองชนะเลิศคู่แรก ประมวล จันทร์ทัด หรือ แมน เมืองสมุทร ลงดวลคิวกับมือวางอันดับหนึ่งของรายการและของประเทศ อรรถสิทธิ์ มหิทธิ เจ้าของแชมป์ 2 รายการซ้อน ที่กำลังไล่ล่าแชมป์ประเทศไทยให้กับตัวเองเป็นครั้งแรก เฟรมแรก อรรถสิทธิ์ เป็นผู้เปิดเฟรมก่อน ประมวลตบแดงแรกกินน้ำเงินนำไปก่อน 6-0 อรรถสิทธิ์เก็บแดง บวกกับชุดน้ำเงินกับดำไปอีก 2 ชุด กลับมานำ 15-6 อรรถสิทธิ์ ซึ่งดูฟอร์มยังไม่เข้าที่ มีผิดพลาดลูกง่าย ๆ หลายครั้ง จึงเป็นโอกาสให้ประมวล กวาดแดง 6 ลูกสุดท้ายพร้อมสีหมดโต๊ะ 73 คะแนน เอาชนะไปก่อนในเฟรมแรก 106-19 ขึ้นนำไปก่อน 1 ต่อ 0 เฟรม เฟรมที่สอง อรรถสิทธิ์ เป็นฝ่ายขึ้นนำก่อน คราวนี้ทำไป 4 ชุดครึ่ง 31 คะแนน ประมวลใาได้คืน 1 ชุดน้ำเงิน แล้วมาเสียเบรคที่สองให้อรรถสิทธิ์อีก 3 ชุด 21 คะแนน อรรถสิทธิ์ขึ้นนำ 52-6 ทำท่าจะตีเสมอได้ แต่ประมวลก็ตบแดงลูกยาก พร้อมเข้าเบรคอีก 6 ชุด แล้วกวาดเหลืองถึงน้ำเงิน วางตัวไว้กินชมพูที่ต้องการอีกเพียงลูกเดียว แต่ใช้เรสต์พลาด ทำให้อรรถสิทธิ์มีโอกาสชิงสองหนึ่ง แต่โชคร้าย ประมวลไปฟลุ๊คชมพูที่หลุมกลาง ทำให้ได้เฟรมที่สองไปท่ามกลางเสียงฮือฮาของแฟนสนุกเกอร์รอบสนามด้วยสกอร์ 70-52 ประมวลนำ 2 ต่อ 0 เฟรม เฟรมที่สาม ประมวลได้ใจ ยังคงทำแต้มนำไปอย่างต่อเนื่อง ด้วยเบรค 20 ในไม้แรก ตามด้วย 24 และอีก 27 รวม 3 ไม้ ชนะไปอีกในเฟรมที่สามที่ 71-14 ขึ้นนำไปถึง 3 ต่อ 0 เฟรม เฟรมที่สี่ อรรถสิทธิ์หลังชนฝา แพ้อีกไม่ได้แล้ว เข้าเบรคออกนำไปก่อน 8 ชุด 55 แต้ม แล้วคุมรูปเกมเอาชนะไปในเฟรมนี้ขาดลอย ด้วยสกอร์ 76-7 ตีไข่แตกมาเป็น 1 ต่อ 3 เฟรม เฟรมที่ห้า ทั้งสองเปิดฉากป้องกันและวางสนุ้กกันตั้งแต่แรก โดยประมวลได้ฟาล์วไปก่อน 2 ครั้ง คะแนนยังสูสีกันอยู่โดยประมวลนำอยู่ที่ 16-9 ประมวลเริ่มตีจากไปด้วยเบรคอีก 4 ชุด 24 แต้ม นำห่างออกไปที่ 41-9 อรรถสิทธิ์พยายามไล่ตามมาทีละน้อย แต๋ก็โดนประมวลเข้าเบรคไปอีก 3 แดง 2 ชมพู นำไปเป็น 56-14 ตามหลังอยู่ 42 แต้ม บนโต๊ะมี 2 แดง 43 คะแนน ทำให้อรรถสิทธิ์ต้องกินแดงเก็บดำทั้ง 2 ชุดแล้วเก็บที่เหลือให้หมดโตีะ และก็เก็บแดงกินดำไปได้ พร้อมวางขาวกินเหลือง ต่อด้วยเขียว แต่วางตัวเบาเกินไป ทำให้ต้องฝืนขาวกลับมาหาน้ำตาล ทำให้ขาวไปเข้าสนุ้กจมูก ต้องแก้ไขลูกน้ำตาล ซึ่งแก้แก้ไขไปได้ อรรถสิทธิ์เป็นรอง 21 แต้มที่ 35-46 และเหลือน้ำตาลถึงดำ 22 คะแนน ต้องเก็บให้หมด แต่โชคไม่เข้าข้าง ประมวลไปฟลุ๊คลูกน้ำตาลที่หลุมกลางอีกครั้ง ทำให้แต้มขาดลอยไปที่ 35-60 อรรถสิทธิ์ต้องวางถึง 2 สนุ้ก แต่ก็พยายามอยู่หลายไม้ จนในที่สุด ประมวลก็ตบน้ำเงินชนะไปในที่สุด 65-35 และสกอร์รวม 4 ต่อ 1 เฟรม ผ่านเข้าไปรอชิงชนะเลิศกับผู้ชนะ ระหว่าง ขวัญ สระบุรี กับ เอ๋ พนม ที่จะแข่งต่อเป็นคู่ต่อไป ไพฑูรย์ แทง 2 เฟรม ๆ ละ 80 กับ 83 ชวดรางวัลเซ็นจูรี่รางวัลละ 2 พันบาทไปถึง 2 ครั้งการแข่งขันรอบ 8 คนคู่สุดท้ายวันนี้ ประมวล จันทร์ทัดหรือ แมน เมืองสมุทร ลงดวลคิวกับ ไพฑูรย์ ผลบุญ หรือ ตัวเล็ก สำโรง เพื่อหาผู้ชนะเข้าไปแข่งกับ อรรถสิทธิ์ มหิทธิ ในรอบรองชนะเลิศในวันเสาร์ที่ 8 ก.ย. นี้ เฟรมแรก ประมวลเปิดเฟรมก่อน ไพฑูรย์ตบแดงแรกได้ไปเพียง 1 คะแนน แล้วโดนประมวล เข้าเบรค 4 แดง 1 น้ำเงิน 2 ดำ ทำไป 23 แต้ม ขึ้นนำ 23-1 ไพฑูรย์มาเก็บชุดดำได้อีก 1 ชุด ตามมาเป็น 9-23 แล้วมาโดนประมวลจับเบรคอีก 4 ชุด 30 แต้ม เขยิบห่างไปเป็น 53-9 ตามมาด้วยเบรคอีก 5 แดง 2 น้ำเงิน 1 ดำ 1 น้ำตาล อีก 26 แต้ม นำโด่งไปที่ 79-9 ไพฑูรย์ลุกขึ้นมาออกคิว แทงจากเหลืองถึงน้ำตาลแล้วยอมแพ้ไปในเฟรมแรก 18-79 ประมวลขึ้นนำ 1 ต่อ 0 เฟรม เฟรมที่สอง ไพฑูรย์ ออกฤทธิ์ กดสองเบรค 22 และ 83 แต้ม ใช้เวลาเพียง 12 นาที เอาชนะไปในเฟรมนี้แบบไข่ไม่แตก 105-0 คะแนน ไพฑูรย์พลาดโอกาสที่จะทำเซ็นจูรี่ เพื่อรับเงินรางวัล 2,000 บาท จากสโมสรกีฬาบิลเลียด-สนุกเกอร์ จ.นครราชสีมา หลังพลาดลูกเหลือง ทำไป 83 แต้ม แต่ก็ไล่ตีเสมอมาที่ 1 เฟรมเท่ากัน เฟรมที่สาม เป็นเฟรมที่ต่อสู้กันอย่างสูสีที่สุด โดยไพฑูรย์ขึ้นนำไปก่อนที่ 21-11 ประมวลตามมาติด ๆ แล้วขึ้นนำไป 24-21 ไพฑูรย์เข้าเบรค 2 ชุด หนีไปเป็น 32-24 ประมวลกลับมานำหลังตบไป 3 ชุดที่ 45-32 แล้วก็ถูกไพฑูรย์ตามติดมาที่ 44-45 ด้วยการตบแดงลูกสุดท้าย แล้วไล่เหลืองถึงน้ำตาล แต่เป็นแระมวล ที่เก็บน้ำเงินและชมพูไปอีก 11 แต้ม เอาชนะไปในเฟรมนี้ด้วยสกอร์ 56-44 ประมวลขึ้นนำ 2 ต่อ 1 เฟรม เฟรมที่สี่ เป็นอีกเฟรมหนึ่งที่ไพฑูรย์ มีโอกาสทำเซ็นจูรี่ได้ หลังจากที่ประมวลออกนำไปก่อน 3 แดง 2 ดำ นำไป 17 แต้ม ไพฑูรย์ก็เข้าเบรค 11 ชุด แล้วมาพลาดแดงลูกสุดท้าย ทำไปอีก 80 แต้ม ชวดโอกาสหยิบรางวัลเบรค 2 พันบาทไปอีกครั้ง แต่ก็ไล่ตีเสมอได้ที่ 2 เฟรมเท่ากัน เฟรมที่ห้า ทั้งคู่ยังคงผลัดกันนำผลัดกันตาม โดยไพฑูรย์ขึ้นนำไปก่อนด้วยเบรค 3 ชุด 20 แต้ม ประมวลตีคืนมาได้ 4 ชุด 29 แต้ม ขึ้นนำ 29-20 แล้วมาโดนสนุ้กฯเสียฟาล์วแอนด์มิสไป 2 ครั้ง 11 แต้ม ไพฑูรย์นำ 31-29 ประมวลมาเก็บชุดเหลืองกับอีก 1 แดง กลับขึ้นมานำ 33-31 แล้วโดนไพฑูรย์เข้าเบรคไปอีก 3 ชุด 18 แต้ม กลับไปนำที่ 49-33 ก่อนที่จะโดนประมวลเก็บ 2 แดงสุดท้ายแล้วกวาดเหลืองถึงชมพู 33 แต้ม เอาชนะไปในเฟรมที่ห้าด้วยสกอร์ 66-49 ขึ้นแท่นไปก่อนที่ 3 ต่อ 2 เฟรม เฟรมที่หก ประมวลเป็นฝ่ายเข้าทำก่อน แล้วคุมเกมได้เป็นส่วนใหญ่ ออกนำไปจาก 2 ไม้ 38-6 คะแนน ไพฑูรย์ตามมา 1 ชุดชมพู แล้วมาเสียฟาล์วไป 4 แต้ม ทำให้ประมวลขึ้นนำไป 42-13 ไพฑูรย์ไล่ตามมาอีก 2 ชุด 9 คะแนน แล้วโดนหนีไปอีก 3 ชุด 18 คะแนน ก่อนที่ประมวลจะตบแดงลูกสุดท้าย ชนะไปที่ 61-22 ผ่านเข้ารอบ 4 คนสุดท้ายไปพบอรรถสิทธิ์ ในเวลา 13.00 น. วันเสาร์ที่ 8 ก.ย. นี้
บิ๊ก สระบรี ยังมีสิทธิ์ลุ้นแฮตทริก 3 แชมป์ติด โค่น แจ็ค เชียงใหม่ 4-2การแข่งขันรอบ 8 คนในคู่ที่สาม เวลา 16.00 น. วันนี้ ต้องล่าช้าไปประมาณครึ่งชั่วโมง เพราะต้องนำการแข่งขันเฟรมที่เจ็ดที่ตกค้างมาตั้งแต่คู่แรก ระหว่าง เอ๋ พนม กัย ชาย โซโห กลับมาแข่งขันกันต่อให้จบเสียก่อน ซึ่งผลปรากฎว่า เอ๋ พนม เอาชนะ ชาย โซโหไปในเฟรมตัดสิน ตามที่ได้รายงานไปแล้ว การแข่งขันคู่ต่อมา เป็นการพบกันของคู่ชิงชนะเลิศรายการที่ 6 ที่ จ.อุบลราชธานีเมื่อปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ระหว่างมือวางอันดับ 1 อรรถสิทธิ์ มหิทธิ พบกับ อดีตมือวางอันดับ 1 เมื่อฤดูกาลที่แล้ว สุพจน์ แสนหล้า ทั้งคู่เคยเจอกันมาล่าสุดในรอบชิงชนะเลิศรายการที่ 6 ที่เนวาด้า คอมเพล็กซ์ จ.อุบลราชธานี โดย บิ๊ก สระบุรี เป็นผู้คว้าชัยชนะคว้าแชมป์รายการที่ 6 ไปครอง เฟรมแรก บิ๊ก สระบุรี เป็นผู้เปิดเฟรมก่อน แล้วมาได้ฟาล์วไป3 ไม้ ๆ ละ 6-7 แต้ม ขึ้นนำ แจ็ค เชียงใหม่ไปก่อน 19-0 ตามด้วยการตบแดงกินดำอีก 1 ชุด นำไปที่ 27-0 สุพจน์เข้าเบรคเล็ก ๆ ไป 3 ชุดตามมาที่ 20-27 แล้วมาเสียฟาล์วไป 5 แต้ม ทำให้บิ๊กขึ้นนำไปที่ 32-20 และ 32-28 หลังแจ็ค เชียงใหม่ตบแดงกินดำไปอีก 1 ชุด อรรถสิทธิ์มาจับเบรคยาวได้เป็นไม้แรก ด้วยการตบแดงสลับกับดำไป 5 ชุดครึ่ง ทำไป 41 แต้ม ขึ้นนำสุพจน์ไปถึง 74-28 ขณะที่เหลือแดงเพียง 2 ลูก ขาดลอยไป 1 สนุ้กฯ สุพจน์วางได้สำเร็จ และอรรถสิทธิ์แก้ไม่โดน เสียไป 4 แต้ม ทำให้สุพจน์ ลุกขึ้นมากวาด 2 ชุดดำ ตามด้วยเหลืองถึงดำหมดโต๊ะ พลิกเอาชนะไปในเฟรมแรกอย่างสูสี ด้วยสกอร์ 75-74 คะแนน เฟรมที่สอง สุพจน์เป็นฝ่ายเข้าเบรคก่อน 1 ดำ 2 น้ำเงิน ทำไป 20 แต้ม แล้วมาโดน อรรถสิทธิ์ กดตูมเดียว 11 ชุด 79 แต้ม ขึ้นนำไปถึง 79-20 สุพจน์รู้ตัวว่าไม่ได้ออกคิว ลุกขึ้นมาตบแดงกินดำไปได้อีก 1 ชุด แล้วไปต่อไม่ได้ ยอมแพ้ไปในเฟรมนี้ 28-79 ตีเสมอกันที่ 1-1 เฟรมที่สาม เป็นเฟรมของ อรรถสิทธิ์ เพียงคนเดียวที่ทั้งกันทั้งกิน หลังจากได้ฟาล์วมา 4 แต้ม และตบอีกไป 1 แดง ก็กลับมาเข้าเบรค 2 ไม้ ๆ แรก 6 ชุดครึ่ง 37 แต้ม และไม้ที่สอง 7 ชุด พร้อมกับเหลืองถึงน้ำเงิน ชนะไปในเฟรมนี้ด้วยสกอร์ 104-0 ขึ้นนำไปเป็น 2 ต่อ 1 เฟรม เฟรมที่สี่ เป็นเฟรมที่ทั้งสองฝ่ายต่อสู้กันอย่างสูสี โดยอรรถสิทธิ์ขึ้นนำไปก่อนจากเบรค 4 ชุด 24 แต้ม สุพจน์ โต้กลับมา 5 ชุด 33 แต้ม กลับขึ้นมานำ 37-25 ก่อนที่อรรถสิทธิ์จะเก็บคะแนนไปอีก 2 ไม้ ขึ้นมานำที่ 46-37 เมื่อหมดแดง 15 ลูก ต้องมาชิงกันที่ลูกสี สุพจน์เก็บเหลืองได้ไปก่อน แต่มาโดนอรรถสิทธิ์วางสนุ้กฯ สุพจน์แก้ไม่ได้ เสียไป 4 แต้ม แล้วเปิดโอกาสให้อรรถสิทธิ์เก็บเขียว น้ำตาล และน้ำเงินไปทีละไม้ ชนะไปอีกในเฟรมนี้ 62-39 ขึ้นแท่นนำไปเป็น 3 ต่อ 1 เฟรม เฟรมที่ห้า สุพจน์แพ้อีกไม่ได้แล้ว โดนอรรถสิทธิ์ออกนำไปก่อน 23-11 ก่อนจะมีโอกาสเข้าเบรคไม้เดียว 7 ชุด 49 แต้ม กลับขึ้นมานำ 60-23 ตามด้วยการเก็บแดงลูกสุดท้าย กินเหลือง นำไปเป็น 65-23 แต้มขาดลอย อรรถสิทธิ์พยายามจะวางสนุ้กฯ แต่ไม่สำเร็จ สุพจน์แทงเขียวฟาล์ว อรรถสิทธิ์ได้มาอีก 4 แต้ม แต่ก็ยอมแพ้ไปในเฟรมนี้ด้วยสกอร์ 27-65 คะแนน เฟรมที่หก อรรถสิทธิ์พุ่งออกจากเส้นสตาร์ท กดเบรค 5 ชุด 37 แต้ม นำไปก่อนในช่วงแรก สุพจน์มาตีคืนได้จากการเข้าเบรคแทงไป 6 ชุด 32 แต้ม แล้วมาพลาดแดงลูกง่าย ทั้ง ๆ ที่ลูกยืนรับหมดแล้ว ทำให้อรรถสิทธิ์ลุกขึ้นมากวาดไม้เดียวหมดโต๊ะ 4 ชุดและเหลืองถึงดำ 52 แต้ม ชนะไปในที่สุด 89-32 คะแนน รวม 4 ต่อ 2 เฟรม เข้าไปรอพบผู้ชนะของคู่ต่อไป ระหว่าง ไพฑูรย์ ผลบุญ กับ ประมวล จันทร์ทัด ในรอบรองชนะเลิศ อิศ ขึ้นนำก่อน 3-1 โดนไล่มา 3 เท่า หลังจบไปหกเฟรม เฟรมที่เจ็ด โดน 3 เบรค รวม 99 แต้ม แพ้ขวัญไปในที่สุดการแข่งขันรอบ 8 คนคู่ที่สอง เมื่อเวลา 13.00 น. ที่ผ่านมา เป็นการพบกันระหว่างมือ ท๊อปไฟว์ของประเทศ 2 คน คือ อิศรา กะไชยวงษ์ หรือ อิศ จันท์ กับ สุชาครีย์ พุ่มแจ้ง หรือ ขวัญ สระบุรี โดยอิศรา ชนะผ่าน กอบกิจ พลาจิณ มาในรอบ 16 คน เนื่องจากกอบกิจ ต้องเดินทางไปแข่งขันพูล 9 ลูกที่ฟิลิปปินส์ ส่วน สุชาครีย์ เอาชนะ ยุทธภพ ภาคพจน์ มาในรอบ 16 คนอย่างขาดลอย 4 ต่อ 0 เฟรม เฟรมแรก อิศรา เป็นผู้เปิดเฟรมก่อน แล้วตบแดงกินน้ำตาล ตามด้วยอีก 1 แดง ได้ไป 6 แต้ม ขวัญ ตบแดงกินเหลืองตามด้วยอีก 1 แดง ได้ไป 3 แต้ม แล้วโดนอิศเข้าเบรคยาว 5 ชุดครึ่ง 33 คะแนน ขึ้นนำไป 39-4 ขวัญมาเก็บอีก 1 แดง ตามด้วยอีก 4 แดงสุดท้ายพร้อมเหลืองและเขียวในไม้ต่อมา ตามมาสูสีกันอยู่ที่ 37-39 เหลือ 4 ลูกบนโต๊ะ 22 คะแนน อิศราเก็บ้ำตาลได้ก่อน 1 ไม้ แล้วตามด้วยน้ำเงินและชมพูในไม้ต่อมา เอาชนะไปก่อนในเฟรมแรกด้วยสกอร์ 54-37 ขึ้นนำขวัญ สระบุรีไป 1 ต่อ 0 เฟรม เฟรมที่สอง ขวัญวางสนุ้กได้มาก่อน 4 แต้ม แล้วเข้าเบรคยาวไม้เดียว 8 ชุด 57 แต้ม ขึ้นนำไปก่อนถึง 61-0 อิศเข้าเบรคตามมาทันทีในไม้ต่อมา กดไป 5 ชุด 32 แต้ม ไล่มาที่ 32-61 แต่มาพลาดลูกแดงลูกที่ 14 ข้างชิ่งสุดเอื้อม กลับมาตั้งให้ขวัญเก็บแดงที่เหลืออีก 2 ลูกแล้วกวาดเหลืองถึงน้ำเงิน เอาชนะไปในเฟรมที่สอง ด้วยสกอร์ 87-32 ตีเสมอมาเป็น 1 เฟรมเท่ากัน เฟรมที่สาม อิศราเป็ยฝ่ายทำคะแนนนำไปก่อนด้วยเบรค 4 ชุด 32 แต้ม บวกกับเก็บเล็กผสมน้อย ขึ้นนำไปถึง 52-0 หลังผ่านไปได้ 10 แดง ขวัญ มาจับเบรคชุดดำได้ 3 ชุด ไล่มาที่ 24-52 แต่เป็นอิศราที่เก็บ 2 แดงสุดท้าย แล้วเอาชนะไป 58-24 ขึ้นนำเป็น 2 ต่อ 1 เฟรม เฟรมที่สี่ อิศเป็นฝ่ายขึ้นนำด้วยเบรค 3 ชุดครึ่ง 17 คะแนน ขวัญโต้กลับมาได้ 3 ชุด กลับมานำที่ 19-17 ก่อนจะโดนอิศสอยเบรค 7 ชุด 52 แต้ม ชนะไปในเฟรมนี้ 69-19 ใช้เวลาแข่งขันเฟรมนี้เพียง 11 นาที อิศขึ้นนำ 3 ต่อ 1 เฟรม เฟรมที่ห้า หลังจากที่ทั้งสองแลกเกมป้องกันๆอยู่ในช่วงแรกโดยที่ไม่มีใครทำอะไรได้ ขวัญ ก็เป็นฝ่ายออกนำไปก่อนบ้าง โดยตบไป 3 ชุด 22 แต้ม อิศมาได้ฟาล์วจากขวัญ 4 แต้ม แล้วตบไปอีก 2 แดง 1 เหลือง ตามมาเป็น 8-22 ขวัญตามด้วยเบรคยาวอีก 8 ชุด 54 แต้ม ชนะไปขาดลอย 76-8 ไล่ตามมาเป็น 2 ต่อ 3 เฟรม เฟรมที่หก อิศราจับเบรคแรกได้ก่อน 3 ชุด 22 แต้ม ตามด้วยการตบแดงกินน้ำเงินอีก 3 ชุด อีก 19 แต้ม รวม 2 ไม้ นำขวัญไป 41-0 ขวัญตีคืนด้วยการเข้าเบรค 6 แดง 5 ชมพู ตีืนมา 36 แต้ม ไล่ตามมาติด ๆ อิศราเก็บแดงไปได้อีก 2 ลูกสุดท้ายแต่ไม่มีสี ขึ้นนำที่ 43-36 และเป็นขวัญที่จับเบรคอีกไม้ไล่สีตั้งแต่เหลืองถึงชมพู 20 แต้ม ชนะไปในเฟรมนี้ 56-43 ตีเสมอที่ 3 เฟรมเท่ากันได้สำเร็จ ต้องตัดสินกันในเฟรมสุดท้าย เฟรมที่เจ็ด อิศราเป็นผู้เปิดเฟรมก่อน แล้วได้แต่นั่งดูขวัญเข้าเบรค 3 ไม้ โดยไม้แรก แทงไป 4 แดง 4 ดำ นำไปก่อน 32-0 เบรคที่สอง กดไปอีก 5 แดง 3 น้ำเงิน 1 ดำ ทำไปอีก 27 แต้ม รวม 2 เบรคขึ้นนำไป 59-0 เหลือ 6 แดงบนโต๊ะ 75 แต้ม แต่อิศก็ยังไม่สามารถทำแต้มได้ จนขวัญกลับมาเข้าเบรคอีกครั้ง คราวนี้ ตบไปอีก 6 แดงที่เหลือ ทำไปอีก 40 แต้ม ชนะไปขาดลอยในเฟรมตัดสิน 99-0 คะแนน พลิกกลับมาเอาชนะ อิศ จันท์ ไป 4-3 เฟรม เข้ารอบรองชนะเลิศไปเป็นคนแรก
เอ๋ พนม เข้ารอบรองชนะเลิศ กด ชาย โซโห อยู่หมัดเฟรมตัดสินผลการแข่งขันสนุกเกอร์ "แสงโสม โคราช คัพ 2012" ดิวิชั่น 1 รายการที่ 7 ชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทยที่ห้างสรรพสินค้าคลังพลาซ่า จ.นครราชสีมา รอบ 8 คนสุดท้ายคู่แรก เมื่อเวลา 10.00 น. เป็นการพบกันของสายบน ระหว่าง พนมไพ พ่อวิเศษ หรือ เอ๋ พนม ที่เอาชนะ ธัณยธรณ์ ธนพสิฐพงศ์ หรือ สอง วัดพุทธ มาได้ในรอบ 16 คน 4-2 เฟรม ลงสนามพบกับ นักสอยคิวรุ่นพี่ มืออันดับ 8 ของประเทศ สมชาย กาวสำราญ หรือ ชาย โซโห ที่เอาชนะนักสอยคิวเจ้าถิ่น นคร ชาพล หรือ โก๋ โคราช มาในรอบ 16 คน 4-3 เฟรม เฟรมแรก สมชายเป็นฝ่ายเปิดเฟรม แล้วขาวเปลี่ยนเสียไปก่อน 4 แต้ม แต่มาเข้าเบรคได้ในไม้ต่อมา ทำไป 4 ชุดครึ่ง แดง-ดำล้วน ๆ 33 คะแนน นำไปก่อน 33-4 เอ๋ ได้คืนมาแค่ 1 ชุดนำเงินกับอีก 1 แดง ตามมาที่ 11-33 แต่ก็โดน ชาย โซโห เข้าเบรคอีกในไม้ที่สอง ทำไปอีก 5 ชุด 32 แต้ม นำโด่งไปที่ 65-11 เอ๋ พยายามทำแต้มคืน แต่ก็ยังเข้าเบรคไม่ได้ แล้วแพ้ในในเฟรมแรกหลังจากที่ ชาย โซโห ตบเหลือง แล้วแทงกันลูกเขียว ชนะไป 68-20 นำไปก่อน 1 ต่อ 0 เฟรม เฟรมที่สอง เอ๋ พนม เป็นฝ่ายเปิดเฟรมบ้าง แล้วเสียฟาล์วไปทันที 4 แต้มเช่นกัน แต่ก็มาได้คืนจากการที่สมชาย ทำฟาล์วในไม้ต่อมา แจกกันไปก่อนคนละ 4 แต้ม หลังจากนั้น เอ๋ พนม จับได้อีก 2 ไม้ ๆ ละ 1 ชุด นำไปที่ 16-4 สมชายได้ชุดน้ำเงินคืนมาที่หลุมกลาง ตามมาที่ 10-16 แต่โดนเอ๋ เข้าเบรคยาวไม้เดียว 5 ชุดครึ่ง 38 แต้ม นำโด่งไปที่ 54-10 สมชายมาตีคืนได้อีก 2 ชุด 14 แต้ม ตามมาห่าง ๆ ที่ 24-54 แล้วก็เป็น เอ๋ พนม ที่ปิดเฟรมที่สองไปด้วยคะแนน 75-24 มาเสมอกันที่ 1 ต่อ 1 เฟรม เฟรมที่สาม สมชาย เข้าทำก่อนทันที หลังจากถูกตีเสมอมาในเฟรมที่สอง เข้าเบรค 4 ชุด 2 ดำ 2 น้ำเงิน 28 แต้ม ตามด้วยดำอีกชุดครึ่ง นำไปก่อน 37-0 พนมไพ มาตีคืนได้ด้วยเบรค 3 ชุดครึ่ง ชมพูล้วน ๆ 22 คะแนน แล้วโดนสมชายเขยิบหนีไปอีก 1 ชุดดำที่ 44-22 หลังจากนั้น ก็ไม่มีใครเข้าเบรคอะไรได้ จนเหลือแดงสุดท้าย สมชายนำอยู่ 33 แต้มที่ 61-28 ทำให้ เอ๋ พนม ต้องเก็บแดงลูกสุดท้ายแล้วกินชมพู เพื่อให้มีสิทธิ์ชิง แต่กินสีไม่ได้ ต้องวางถึง 2 สนุ้กฯ สมชายแก้ไม่โดน เอ๋ได้มา 4 แต้ม ไล่ตามมาที่ 33-61 ขาดอีก 1 สนุ้กฯ แต่สมชายเก็บเหลืองได้ ขึ้นนำไปอีกที่ 63-33 เอ๋ พยายามวางสนุ้กฯต่อ สมชาย เก็บเขียวถึงชมพูไปอีก 18 แต้ม ชนะไปในเฟรมที่ 3 ด้วยสกอร์ 81-33 ขึ้นนำไป 2 ต่อ 1 เฟรม เฟรมที่สี่ พนมไพเป็นฝ่ายเปิดเฟรม และเป็นผู้ตบแดงแรกลงไปแล้ววางสนุ้ก สมชายแก้ไม่โดนเสียไปก่อน 4 แต้ม พนมไพได้อีก 1 แดงแต่พลาดสี เปิดโอกาสให้สมชายเข้าเบรค 3 น้ำเงิน 1 ดำ 26 แต้ม กลับขึ้นมานำ 26-6 พนมไพ ตีคืนมาได้ 1 เบรค 3 ชุด 19 แต้ม ตามมาสูสีกันที่ 25-26 แล้วขึ้นนำไปที่ 47-27 เมื่อเหลือแดง 2 ลูก สมชายมาได้ฟาล์วจากพนมไพ 6แต้ม แล้วต่อเบรคอีก 2 แดงและเก็บสีถึงลูกเขียว กลับมานำพนมไพ 48-47 เกมเบียดกันมากในช่วงท้ายเกม พนมไพ เก็บน้ำตาลต่อน้ำเงิน ได้มาอีก 9 แต้ม ขึ้นนำ 56-48 สมชายเป็นรอง 2 ต่อ 1 ลูก เก็บชมพูได้ ตามมาที่สกอร์ 54-56 แต่ต้องมากันลูกดำ และพนมไพตบดำได้ในที่สุด ชนะไปเฉียดฉิว 63-54 ตีเสมอเป็น 2 ต่อ 2 เฟรม เฟรมที่ห้า สมชายเป็นผู้เปิดเฟรม แล้วเสียฟาล์วไป 2 ไม้ 8 คะแนน ก่อนจะตบแดงแล้วมาวางสนุ็กฯ ได้คืนมา 4 คะแนน เกมช่วงแรกยังไม่มีใครจับเบรคยาวได้ สกอร์ค่อย ๆ ๆไหลไปที่ละน้อย จนมาอยู่ที่ 28-24 เมื่อแดงหมดโต๊ะ โดยพนมไพเป็นฝ่ายนำอยู่ 4 แต้ม หลังตบแดงลูกสุดท้าย พนมไพวางสนุ้กฯ และได้ฟาล์วแอนด์มิสจากสมชายมาถึง 4 ครั้ง 18 คะแนน ขึ้นนำเป็น 46-24 แล้วมาเก็บเหลืองกับเขียวเพิ่ม นำไปเป็น 51-24 สมชายต้องการ 1 สนุ้ก และตัดสินใจตบน้ำตาลได้มา 4 แต้ม ไล่มาที่ 28-51 แต่วางสนุ้กฯไม่ได้ พนมไพตบน้ำเงินชนะไปในเฟรมที่ห้านี้ด้วยสกอร์ 56-28 ขึ้นนำสมชายเป็น 3 ต่อ 2 เฟรม เฟรมที่ 6 เป็นเฟรมที่ใช้เวลาน้อยที่สุด โดยเอ๋ พนม เป็นฝ่ายเข้าเบรคนำไปก่อน 5 ชุดครึ่ง 39 คะแนน แต่มาหลุดดำ ส่งผลให้สมชาย ลุกขึ้นมากดเบรคไม้เดียว 9 ชุด พร้อมไล่สีจากเหลืองถึงน้ำเงิน 80 คะแนน เอาชนะไปในเฟรมที่หก ไล่ตีเสมอได้สำเร็จที่ 3 เฟรมเท่ากัน และต้องหยุดการแข่งขันไว้ เนื่องจากติดคู่ถ่ายทอดสดในเวลา 13.00 น. ทางสยามกีฬาทีวี ต้องกลับมาแข่งกันต่อในเฟรมสุดท้ายหลังจบคู่ถ่ายทอดสดต่อไป เฟรมที่เจ็ด ที่กลับมาแข่งขันกันต่อ หลังจบคู่ 13.00 น. ชาย โซโห เป็นฝ่ายเปิดเฟรมก่อน และเป็น เอ๋ พนม ที่คุมเกมทำแต้มอยู่เพียงฝ่ายเดียว ด้วยเบรค 24, 14, 19, นำชายไปก่อนถึง 56-0 เมื่อหมดไป 11 แดง เอ๋ พนม แทงดำไม่ลงจ่ออยู่ปากหลุม เปิดโอกาสให้ชายขึ้นมาทำแแต้ม ชายเช็ดแดงหลุมกลางลง วางขาวจะมากินดำ แต่โชคไม่ดี ขาวไปเข้าหลังชมพู กินดำไม่ได้ ได้ไปเพียง 1 คะแนน แล้วมาเสียดำให้เอ๋อีก 1 ชุด ยอมจับมือแพ้ไปในเฟรมนี้อย่างรวดเร็ว ใช้เวลาไปเพียง 18 นาทีเท่านั้น เอ๋ พนม เข้ารอบรองชนะเลิศ ไปพบกับ ขวัญ สระบุรีต่อไปในวันพรุ่งนี้
แมน เมืองสมุทร หักคิว รมย์ สุรินทร์ ลิ่วเข้ารอบ 8 เจอตัวเล็กสำหรับผลการแข่งขันคู่ 16.00 น. ระหว่าง ประพฤติ ชัยธนสกุล หรือ รมย์ สุรินทร์ พบกับ ประมวล จันทร์ทัด หรือ แมน เมืองสมุทร ในรอบ 16 คน ซึ่ง รมย์ สุรินทร์ ตั้งเป้าที่จะคว้าแชมป์ประเทศไทยปีนี้ให้ได้ เพื่อทำสถิติเป็นนักสอยคิวคนแรกของไทย ที่จะคว้า แกรนด์สแลม 3 แชมป์ประเทศไทย คือ แชมป์พูล 9 ลูก แชมป์บิลเลียด และแชมป์สนุกเกอร์ประเทศไทยได้ในปีเดียวกัน ส่วนแมน เมืองสมุทร ลงสนามในฐานะเจ้าของเบรคสูงสุด 141 คะแนน ที่ทำไว้ในการแข่งขันกับ สมพร กันธวัง หรือ เบิ้ม เชียงใหม่ ในรอบ 32 คนสุดท้ายที่ ทีบีซี สนุกเกอร์เซนเตอร์ หัวหมาก เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เฟรมแรก ประพฤติเป็นฝ่ายเปิดเฟรม แล้วออกนำไปก่อน 2 ไม้ ที่ 9 และ 22 คะแนน ขึ้นนำไป 31-0 แต่หลังจากนั้น ประมวลเป็นฝ่ายคุมสถานการณ์ได้ทั้งหมด แล้วค่อย ๆ ตอดทีละ 2-3 ชุด กลับมาขึ้นนำไปที่ 59-31 เมื่อถึงลูกเหลือง และเป็นฝ่ายเก็บเขียวไปได้อีก ทำให้ชนะไปในเฟรมแรก 62-31 คะแนน ประมวลขึ้นนำ 1 ต่อ 0 เฟรม เฟรมที่สอง ประพฤติยังเป็นฝ่ายสตาร์ทออกไปก่อนเช่นเคย โดยได้ฟาล์วมา 2 ไม้พร้อมเบรคย่อย ๆ อีก 21 แต้ม ขึ้นนำไป 29-0 ประมวลได้โอกาสเข้าเบรคตบแดงกินชมพูล้วน ๆ ไป 6 ชุด 42 แต้ม แล้วคุมรูปเกมเอาชนะไปในเฟรมที่สองได้อีก 67-32 นำห่างไปเป็น 2 ต่อ 0 เฟรม เฟรมที่สาม ประพฤติก็ยังคงเป็นฝ่ายออกสตาร์ทก่อนอีกครั้ง คราวนี้ตบไป 3 ไม้ ไม้ละ 2 ชุด นำไป 32-0 คะแนน ประมวลได้โอกาสไล่ตามมาห่าง ๆ ที่ 32-20 แล้วโดนประพฤติเข้าเบรคอีก 3 ชมพูหนีห่างไปเป็น 53-21 คะแนน ประมวลได้ 2 แดงสุดท้ายแต่กินสีได้เพียงลูกเดีบว แล้วตามด้วยเหลืองในไม้ถัดมา ตามมาที่ 53-32 ต้องตบหมดโต๊ะจากเขียวถึงดำ แต่ก็เป็น ประพฤติที่เก็บสีจากเขียวถึงชมพูในไม้เดียว เบียดเอาชนะไปได้ด้วยสกอร์ 71-32 ตีตื้นขึ้นมาเป็น 1 ต่อ 2 เฟรม เฟรมที่สี่ รูปเกมยังเป็นแบบเดิม คือประพฤติเป็นฝ่ายเข้าทำก่อน แล้วนำไปจากการตบแดง-ดำ 4 ชุดครึ่ง 33 แต้ม แล้วยังทำคะแนนนำไปเรื่อย ๆ ถึง 46-8 คะแนน ประมวล ไม่สามารถเข้าเบรคได้ แม้จะตบแดงไปได้อีก 3 ลูก แต่ก็ไม่มีลูกสี แพ้ไปในเฟรมนี้ 14-54 มาเสมอกันอยู่ที่ 2 เฟรมเท่ากัน เฟรมที่ห้า เป็นเฟรมที่ทั้งสองต่างระวังตัว และไม่มีใครออกนำไปก่อนในช่วงแรก ผ่านไป 4 แดง คะแนนประมวลยังคงนำอยู่เล็กน้อยที่ 11-8 ประพฤติมาจับเบรคแรกได้ 5 ชุด 29 แต้ม นำไปเป็น 37-11 ประมวลมาตีคืนได้อีก 3 ชุดครึ่ง 22 คะแนน แต่เป็นประพฤติที่เก็บเหลืองถึงชมพูได้ในช่วงท้ายเกม เอาชนะไปในเฟรมที่ห้านี้ 58-39 คะแนน ขึ้นนำเป็น 3 ต่อ 2 เฟรม เฟรมที่หก เป็นเฟรมที่ใช้เวลานานที่สุดกว่าครึ่งชั่วโมง ประมวลเป็นฝ่ายนำไปก่อน 31-7 แล้วมาโดนประพฤติเบรคคืนไป 5 ชุด 34 คะแนน กลับขึ้นมานำ 41-31 และเขยิบไปเป็น 48-31 ประพฤติมาพลาดเหลืองหลุมกลางหลังตบแดงลูกที่ 13 จากขาวติดชิ่ง ทำให้ประมวลเก็บ 2 แดงสุดท้าย แล้วเก็บเหลืองถึงชมพู ชนะไปในเฟรมนี้ 63-48 เสมอกันที่ 3 เฟรมเท่ากัน ต้องไปตัดสินกันในเฟรมสุดท้าย เฟรมที่เจ็ด ประมวล จันทร์ทัด ออกตัวก่อนด้วยเบรค 4 แดง 4 ดำ 32 แต้ม ประพฤติตามมาห่าง ๆ ที่ 19-32 แล้วโดนประมวลหนีไปอีกเป็น 51-19 แล้วคุมเกมเก็บคะแนนจนชนะไปในเฟรมนี้ 74-29 คะแนน ดับความฝันของประพฤติที่จะคว้า 3 แชมป์ไปในที่สุด ประมวล จันทร์ทัด จะเข้าไปพบกับ ไพฑูรย์ ผลบุญ ในวันที่ 7 ก.ย. 2555 ในเวลา 19.00 น. ต่อไป บิ๊ก สระบุรี ยังร้อนไม่เลิก โค่น เชค นครนายก เข้ารอบ 8 ชน แจ็ค เชียงใหม่การแข่งขันสนุกเกอร์แสงโสม โคราชคัพ รอบ 16 คนคู่ที่ 5 ซึ่งเป็นรอบถ่ายทอดสดทางสยามกีฬาทีวี ทรูวิชั่นส์ 69 ในวันนี้ เป็นการพบกันระหว่าง อรรถสิทธิ์ มหิทธิ หรือ บิ๊ก สระบุรี มือวางอันดับ 1 ของประเทศไทยคนปัจจุบบัน กับ รัชโยธิน โยธารักษ์ หรือ เชค นครนายก ที่อายุน้อยกว่ากันถึงเท่าตัว เปิดเฟรมแรก รัชโยธินเข้าเบรคขึ้นนำไปก่อน 4 ชุด 25 คะแนน ในขณะที่อรรถสิทธิ์ ยังเครื่องไม่ร้อน แทงผิดพลาดหลายครั้ง ทำให้รัชโยธินขึ้นนำไปที่ 51-15 แต่อรรถสิทธิ์ก็เก็บแดงลูกสุดท้าย แล้วไล่สีมาถึงชมพู ตามหลังอยู่ที่ 51-56 ต้องชิงดำ ซึ่งรัชโยธินเป็นฝ่ายเก็บชัยไปได้ก่อน ด้วยคะแนน 63-51 ขึ้นนำไปก่อน 1 ต่อ 0 เฟรม เฟรมที่สอง อรรถสิทธิ์ เป็นฝ่ายจับเบรคได้ก่อน 2 ชุด 30 และ 15 แต้ม นำไป 45-15 คะแนน รัชโยธินมาตีคืนได้ 1 ไม้ ด้วยการตบ 4 ชุดครึ่ง 29 แต้ม ไล่ตามมาสูสีที่ 44-45 เมื่อแดงหมดโต๊ะ ต้องมาชิงลูกสี ซึ่งอรรถสิทธิ์ ใช้ประสพการณ์เบียดเอาชนะไปในเฟรมนี้ ตีเสมอมา 1 ต่อ 1 เฟรม ที่สกอร์ 65-48 เฟรมที่สาม อรรถสิทธิ์ เป็นฝ่ายทำแต้มแต่เพียงผู้เดียว และชนะไปขาดลอย พร้อมเบรค 63 คะแนน ชนะไปในเฟรมนี้ 71-7 ขึ้นนำไปเป็น 2 ต่อ 1 เฟรม เฟรมที่สี่ รัชโยธิน จับเบรคได้ก่อนบ้าง ตบไป 6 ชุดใหญ่ 32 คะแนน แต่ก็มาโดนอรรถสิทธิ์เบรคกลับไป 2 ชุด 11 กับ 56 คะแนน แล้วเอาชนะไปในเฟรมนี้ 74-34 ขึ้นนำไปเป็น 3 ต่อ 1 เฟรม เฟรมที่ห้า รัชโยธินออกก่อนเช่นเคย แต่ไปได้แค่ 2 ชุดเล็ก ๆ นำไปแค่ 28-0 อรรถสิทธิ์มาได้ดำ 2 ชุด ไล่มา 16-28 แล้วโดนรัชโยธินเขยิบห่างไปด้วยเบรคอีก 31 แต้ม หนีไปเป็น 59-16 ช่วงท้ายเฟรม อรรถสิทธิ์ไล่ตามมาที่ 35-59 แต่เป็นรัชโยธิน ที่เก็บเฟรมนี้ไปได้ ด้วยสกอร์ 64-39 ไล่ตามมาเป็น 2 ต่อ 3 เฟรม เฟรมที่หก อรรถสิทธิ์ ที่เครื่องติดแล้ว กดเบรคไม้เดียว 11 ชุด 83 แต้ม เกือบทำเซ็นจูรี่เบรค พลาดรางวัลเงินสด 2,000 บาทจากประธานสโมสรกีฬาบิลเลียดสนุกเกอร์ จังหวัดนครราชสีมา นายทอง วิริยะจารุ ไปอย่างน่าเสียดาย แต่เอาชนะเฟรมและแมตช์ได้ด้วยสกอร์ 83-0 และ 4 ต่อ 2 เฟรม เข้าไปพบคู่ชิงที่ จ.อุบลราชธานี สุพจน์ แสนหล้า ในวันที่ 7 ก.ย. เวลา 16.00 น. โก๋ โคราช ครวญ เกมตามตลอดทุกเฟรม แต่ก็สู้จนชนะใจชาวโคราชผลการแข่งขันรอบ 16 คนคู่ที่ 4 เป็นการพบกันระหว่าง สมชาย กาวสำราญ หรือ ชายโซโห ลงสนามพบนักสนุกเกอร์ขวัญใจชาวโคราช นคร ชาพล ที่เอาชนะ ปรมินทร์ ด่านจิรกุล มาในรอบ 32 คนวานนี้ โดยมีแฟนสนุกเกอร์เจ้าถิ่นเข้ามาให้กำลังใจกันคึกคัก เปิดเฟรมแรก นคร ชาพล ออกนำไปก่อนเล็กน้อย 14-0 คะแนน สมชายมาเข้าเบรคได้ชุดแรก 5 แดง 4 ดำ กลับขึ้นมานำ 33-14 คะแนน นคร โต้กลับในไม้ต่อมา ตบไปอีก 5 ชุด 29 คะแนน กลับมานำ 43-33 แล้วเก็บอีก 2 ชุด น้ำเงินกับดำ นำห่างไปเป็น 57-33 สมชายมาปล้นได้ในช่วงสุดท้าย ด้วยการตบแดงลูกสุดท้าย กินน้ำเงิน แล้วกวาดลูกสีหมดโต๊ะทำไปอีก 33 คะแนนเท่าเบรคแรก เฉือนเอาชนะไปก่อน 66-57 นำไป 1 ต่อ 0 เฟรม เฟรมที่สอง สมชาย เป็นฝ่ายออกหน้าไปก่อนบ้าง เข้าเบรคชุดเล็ก 5 ชุด ทำไปก่อน 25 คะแนน นคร ไล่เก็บชุดดำไป 3 ชุด กลับขึ้นมานำทีี 29-25 แล้วมาโดนสมชายเข้าเบรคยาวอีกครั้ง 5 ชุดใหญ่ 39 คะแนน เอาชนะไปอีกด้วยคะแนน 64-29 ขึ้นนำโก๋ โคราชไป 2 ต่อ 0 เฟรม เฟรมที่สาม สมชายทำท่าจะนำห่างต่อเนื่อง เข้าเบรค 29 คะแนนในไม้แรก แล้วนำไปที่ 38-0 หลังผ่านไป 7 แดง โก๋ โคราช มาตีคืนได้ด้วยเบรคยาว 8 ชุดรวมทั้งเหลืองถึงน้ำตาล กลับขึ้นมานำ 59-38 สมชายต้องเก็บสีที่เหลืออีก 3 ลูกให้หมด และได้น้ำเงินไป แต่มาเสียชมพู ทำให้โก๋ตีคืนมาได้ในเฟรมนี้ 65-43 ไล่ตามมาเป็น 1 ต่อ 2 เฟรม เฟรมที่สี่ ทั้งสองฝ่ายผลัดกันรุกผลัดกันรับ สมชายออกหน้าไปก่อนเล็กน้อยด้วย 1 ชุดดำ นครโต้กลับไป 2 ชุดดำ กลับมานำ 16-8 สมชายเก็บน้ำเงินกับดำไปอีก 14 คะแนน กลับมานำ 22-16 แต่นครก็กลับมานำอีกครั้งที่ 25-22 สมชายมาเก็บชุดย่อมในไม้ต่อไปได้ 4 ชุดครึ่ง 29 แต้ม ขึ้นนำไปที่ 51-25 นครก็ไม่ยอมให้หนีห่าง ไล่ตามมาอีกด้วยเบรค 2 ชุดครึ่ง 17 แต้ม ตามมาที่ 42-51 แต่ในช่วงลูกสี สมชายเป็นฝ่ายเก็บเหลืองถึงน้ำตาล และตามเก็บน้ำเงินได้อีก 1 ไม้ ชนะไปในเฟรมนี้ 65-42 ขึ้นแท่นไปที่ 3 ต่อ 1 เฟรม เฟรมที่ห้า สมชาย เป็นฝ่ายนำไปก่อนและทำท่าจะปิดแมตช์ได้อย่างรวดเร็ว หลังกดเบรคไป 33 แต้ม ขึ้นนำไป 39-12 แต่ นคร ก็ไม่ยอมถอดคิวง่าย ๆ กดคืน 7 ชุดใหญ่ 52 คะแนน กลับมาขึ้นนำ 64-39 สมชายเก็บแดงลูกสุดท้ายได้ แต่นครก็ไล่เก็บตั้งแต่เหลืองถึงดำไปอีก 27 แต้ม เอาชนะไป 91-40 ไล่ตามมาเป็น 2-3 เฟรม เฟรมที่หก สมชายก็ยังคงออกนำไปก่อนเช่นเคย42-0 คะแนน นคร ไล่ตามมาเป็น 26-42 แล้วโดนทิ้งห่างไปอีกที่ 52-26 เมื่อเหลือ 3 แดงสุดท้าย นครเก็บได้ทั้งหมดแล้วตามไล่สีจนถึงน้ำเงิน มาทันกันที่ 51-52 สมชายเก็บชมพู นำไปเป็น 7 แต้ม ทำให้นครได้แค่ชิงเสมอ และก็เก็บดำไปได้ ที่ 58-58 ต้องมาตั้งดำเล่นกันใหม่ และก็เป็นนคร ที่ตบดำหลุมยาวลงไปท่ามกลางเสียงเฮของแฟนสนุกเกอร์ชาวโคราชรอบสนาม ต้องมาตัดสินกันในเฟรมสุดท้าย เฟรมที่เจ็ด สมชายไม่เปิดโอกาสให้นครได้สู้ เก็บคะแนนนำไปก่อนด้วยเบรค 37 คะแนน แล้วออกนำไปถึง 45-1 นครไล่ตามมาที่ 16-45 แต่ก็เป็นสมชาย ที่คุมเกมเอาชนะไปได้ในที่สุด หักอกแฟนสนุกเกอร์ชาวโคราชที่มาลุ้นรอบสนาม ขวัญ พุ่มแจ้ง ลอยลำเข้ารอบ 8 ชนะ นุ๊ก จันท์ แบบไข่ไม่แตกอีกคู่การแข่งขันรอบ 16 คนคู่ที่ 3 ในรอบ 16.00 น. วันนี้ เป็นการพบกันระหว่าง สุชาครีย์ พุ่มแจ้ง หรือ ขวัญ สระบุรี ที่พาคุณแม่มานั่งเชียร์ถึงขอบสนามเป็นครั้งแรก ลงดวลคิวกับ ยุทธภพ ภาคพจน์ หรือ นุ๊ก จันท์ มืออันดับ 12 ของประเทศ เฟรมแรก ขวัญ เข้าเบรคออกนำไปก่อน 4 ชุดดำ 32 แต้ม นุ๊ก ตามมาห่าง ๆ ที่ 32-20 แล้วมาเสียฟาล์วอีก 4 คะแนน เปิดโอกาสให้ขวัญเข้าเบรคยาวอีกไม้ 6 ชุด 43 แต้ม ชนะไปก่อนในเฟรมแรก 79-20 นำไปก่อน 1 ต่อ 0 เฟรม เฟรมที่สอง ขวัญ ยังคงออกคิวได้ดี นำไปก่อนอีกหลังตบชุดเล็กไป 4 ชุดครึ่ง 18 แต้ม นุ๊ก ไล่มาขึ้นนำที่ 21-18 แล้วมาทันกันที่ 21 เท่า ก่อนที่นุ๊กจะตบแดงกินน้ำตาล ตามด้วยชุดชมพูกับอีก 1 แดง 13 แต้ม ขึ้นนำขวัญไป 34-21 เหลือ 3 แดงบนโต๊ะ ขวัญ เป็นฝ่ายเก็บแดงได้ทั้ง 3 ลูก ขึ้นนำไปที่ 43-34 แล้วมาไล่สีอีก 2 ไม้ จากเหลืองถึงน้ำตาล และน้ำเงินกับชมพู เอาชนะไปอีกด้วยสกอร์ 54-34 ขึ้นนำเป็น 2-0 เฟรม เฟรมที่สาม ยังคงเป็นขวัญ ที่นำไปอีกจากเบรค 20 คะแนน นุ๊กไล่มาที่ 18-21 ก่อนที่ขวัญจะเป็นฝ่ายเก็บชัยชนะไปจากไม้ย่อย ๆ อีก 4 ไม้ ชนะไปด้วยคะแนน 52-18 นำโด่งเป็น 3 ต่อ 0 เฟรม เฟรมที่สี่ ซึ่งเป็นเฟรมสุดท้ายของฤดูกาลนี้ของนุ๊ก จันท์ ที่โดนขวัญเข้าเบรคไม้เดียว 8 ชุดครึ่ง 60 แต้ม นำไปถึง 62-4 นุ๊กตามเก็บมาได้อีก 3 ชุดดำ 24 แต้ม แต่ก็ไม่พอ หลังตบแดงสุดท้ายแล้วไม่ได้สี ทำให้แต้มขาดไปถึง 2 ลอย และยอมแพ้ไปในทีสุด ที่สกอร์ 62-29 ขวัญ สระบุรี เข้ารอบ 8 คนสุดท้ายไปพบกับ อิศรา กะไชยวงษ์ ในวันที่ 7 ก.ย. นี้ต่อไป
คู่ที่ 3 หมู ปากน้ำ หัวคิวชื้น คุมขาวไม่ได้ แพ้ ตัวเล็ก สำโรง ไปแบบไข่ไม่แตกคู่ที่ 3 เป็นคู่เอกของวันนี้ มี นายชัยยงค์ ฮมภิรมย์ นายอำเภอเมืองนครราชสีมา ให้เกียรติมาเปิดการแข่งขัน และมีการถ่ายทอดสดทางสยามกีฬาทีวี ทรูวิชั่นส์ 69 เช่นเคย โดยในพิธีเปิด เลขานุการสโมสรกีฬาสนุกเกอร์-บิลเลียด จ.นครราชสีมา นายสมศักดิ์ จักสาน เป็นผู้กล่าวรายงาน การแข่งขันคู่พิธีเปิด เป็นการพบกันระหว่าง มือวางอันดับสองของประเทศ นพพล แสงคำ หรือ หมู ปากน้ำ ที่สร้างผลงานคว้าแชมป์รายการที่ 3 ในปีนี้ที่ จ.นครสวรรค์มาเมื่อเดือนมีนาคม และรองแชมป์อีก 1 รายการที่ จ.สงขลา เมื่อต้นปีนี้ พบกับ อดีตเจ้าของ 3 เหรียญทองกีฬาซีเกมส์ที่นครราชสีมานี้ เมื่อปี 2550 ไพฑูรย์ ผลบุญ หรือ ตัวเล็ก สำโรง เฟรมแรก นพพล แสงคำ เป็นฝ่ายออกนำไปก่อน 42-7 แต่ก็ยังไม่มีเบรคยาว ตัวเล็ก สำโรง มาจับเบรคแรกได้ 5 ชุดครึ่ง 35 แต้ม มาเสมอกันที่ 42-42 แล้วเก็บเหลืองถึงน้ำเงิน นำไปที่ 56-42 นพพล พยายามวางสนุ้กชมพูหลังดำ ที่อยู่ติดชิ่งอยู่หลายครั้ง แต่วางไม่เข้า ทำให้ตัวเล็ก เก็บชมพู เอาชนะไปก่อนในเฟรมแรก 62-42 ขึ้นนำไป 1 ต่อ 0 เฟรม เฟรมที่สอง ตัวเล็ก คุมเกมได้ตั้งแต่แรก กดเบรคย่อม ๆ ไป 2 เบรค 24 และ 20 แต้ม ขึ้นนำหมูไป 45-9 แล้วตามด้วยดำอีก 1 ชุด นำไป 53-9 โดยเหลือเพียงแดงเดียว 35 แต้มบนโต๊ะ หมู มาเสียฟาล์วอีก 4 แต้ม ทำให้ตัวเล็ก ชนะไปในเฟรมที่สอง 57-9 ขึ้นนำเป็น 2 ต่อ 0 เฟรม เฟรมที่สาม ตัวเล็ก เครื่องร้อน เข้าเบรคไม้เดียว 9 ชุด 65 แต้ม ขึ้นนำโด่งไปก่อน 69-1 คะแนน หมู ตามมาห่าง ๆ หลังกดไป 4 แดง 4 ดำ 32 แต้ม ตามด้วยอีก 1 ชุดดำ ไล่มาเป็น 41-69 เมื่อหมดแดงลูกสุดท้าย ขาดลอย 1 แต้ม ตัวเล็กเก็บเหลือง ขึ้นนำไปอีก 71-41 หมูต้องวางสนุ้กฯ และตัดสินใจเก็บเขียวและน้ำตาล เพื่อจะมาวางสนุ้กน้ำเงิน ไล่มาเป็น 48-71 ตามหลังอยู่ 23แต้ม บนโต๊ะเหลือ 18 เป็นรอง 1 สนุ้กเพื่อชิงเสมอ และก็เป็นตัวเล็กที่เก็บน้ำเงิน-ชมพู เอาชนะไปอีกในเฟรมที่ 3 ด้วยสกอร์ 82-48 ขึ้นนำโด่งเป็น 3 ต่อ 0 เฟรม เฟรมที่สี่ หมู ปากน้ำหลังชนฝา แต่ก็ยังคุมขาวไม่ได้ มาโดนตัวเล็กกดเบรคไม้เดียว 11 ชุด 78 แต้ม ชนะไปขาดลอย 83-13 คะแนน เข้ารอบ 8 คนไปด้วยสกอร์ 4-0 เฟรม ไปรอพบผู้ชนะระหว่าง ประมวล จันทร์ทัด และ ประพฤติ ชัยธนสกุล ต่อไป สำหรับการแข่งขันรายการนี้ ประธานสโมสรกีฬาบิลเลียด-สนุกเกอร์จังหวัดนครราชสีมา นายทอง วิริยะจารุ มีรางวัลเซ็นจูรี่เบรค 100 คะแนน ให้กับนักกีฬาที่สามารถทำเบรคถึง 100 แต้มในไม้เดียวได้ เฟรมละ 2,000 บาทอีกด้วย สอง วัดพุทธ พ่าย เอ๋ พนม ร่วงรอบ 16 คนเป็นรายแรกคู่ที่สอง เป็นการพบกันของสายบน ระหว่าง ธัณยธรณ์ ธนพสิฐพงศ์ หรือ สอง วัดพุทธ หนึ่งเดียวของดิวิชั่น 2 ที่หลุดเข้ามาถึงรอบ 16 คนสุดท้ายในรายการนี้ ลงดวลคิวกับ พนมไพ พ่อวิเศษ หรือ เอ๋ พนม นักสอยคิวดีกรี 8 คนสุดท้าย แสงโสม 6 แดงชิงแชมป์โลกที่โรงแรมมณเฑียรริเวอร์ไซด์ เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เฟรมแรก เอ๋ พนม เป็นฝ่ายเอาชนะไปได้ก่อน ด้วยการทำเบรค 39 แต้ม ตามด้วยเบรคย่อย ๆ อีกหลายไม้ ขึ้นนำไปถึง 62-4 เหลือ 5 แดงบนโต๊ะ สอง ลุกขึ้นมาตบแดงไปได้แดงเดียว แต่กินสีไม่ได้ โดนเอ๋หนีไปอีกเป็น 70-5 เมื่อเหลือ 2 แดงสุดท้าย สอง ได้แต่เพียงลุกขึ้นมาออกคิว โดยตบไป 2 แดงพร้อมกับไล่เหลืองถึงน้ำเงิน 26 แต้ม แพ้ไปในเฟรมแรกด้วยสกอร์ 31-70 เอ๋ ขึ้นนำไปก่อน 1 ต่อ 0 เฟรม เฟรมที่สอง เอ๋ พนม เป็นฝ่ายออกนำก่อนเช่นเดิม ด้วยเบรค 25 และ 24 แต้ม นำไปก่อนที่ 49-0 คะแนน สองเก็บ 2 ชุดดำไล่ตามมาเป็น 16-49 แล้วโดน เอ๋ หนีไปอีก 1 ชุดดำที่ 57-16 สองไล่เก็บ 4 แดงสุดท้ายอีก 26 แต้ม ตามมาที่ 42-57 เมื่อถึงลูกสี และสามารถเก็บเหลืองถึงน้ำเงิน ตามมาสูสีกันที่ 56-57 ต้องชิงดำ แต่เป็น เอ๋ พนม ที่ตบชมพู-ดำไปได้ในที่สุด ชนะไปแบบสูสีที่ 70-56 ขึ้นนำเป็น 2 ต่อ 0 เฟรม เฟรมที่สาม ธัณยธรณ์ เป็นฝ่ายเก็บชัยชนะในเฟรมนี้ได้ ด้วยเบรค 30, 16 และ 23 แต้ม ชนะไปขาดลอย 77-5 คะแนน ตามมาเป็น 1 ต่อ 2 เฟรม เฟรมที่สี่ สอง วัดพุทธ ยังคงออกนำไปอีก ด้วยการตบสลับวางสนุ้กฯ ขึ้นนำไปที่ 28-0 คะแนน เอ๋ เก็บ แดง-ดำ 3 ชุด 24 แต้มไล่มาสูสี แล้วนำต่อไปถึง 36-28 จากการได้ฟาวล์อีก 2 ไม้ต่อมา ในช่วงสุดท้าย สอง เก็บเบรค 5 แดงสุดท้ายถึงเหลือง 39 แต้ม ชนะไปขาดลอยในเฟรมนี้ที่ 67-36 แต้ม ตีเสมอได้ที่ 2 เฟรมเท่ากัน เฟรมที่ห้า เอ๋ พนม เข้าเบรคยาว 58 แต้ม แล้วนำไปถึง 72-14 เมื่อเหลือ 2 แดงสุดท้าย สอง วัดพุทธ ลุกขึ้นมาออกคิวอีกครั้ง หลังถูกจับนั่งอยู่นาน แต่ก็ได้ไปเพียง 1 ชุดชมพู แพ้ไปในเฟรมนี้ 25-78 เอ๋ พนม ขึ้นแท่นไปก่อนที่ 3 ต่อ 2 เฟรม เฟรมที่หก เป็นเฟรมที่สูสี ต่างฝ่ายต่างระวังตัว และป้องกันกันสุดฤทธิ์ รวมทั้งมีการเปลี่ยนแผนมาเป็นวางสนุ้กฯ ทำให้ สอง วัดพุทธ มีแต้ในำไปก่อนที่ 28-18 แล้วมาสูสีกันที่ 35-34 โดยที่สองเป็นฝ่ายนำเพียง 1 แต้ม เมื่อเหลือ 2 แดงสุดท้าย เอ๋ ตบแดงแล้ววางสนุ้ก สองแก้ไม่โดน เสียฟาล์วแอนด์มิสไปถึง 8 ครั้ง 37 แต้ม ทำให้เอ๋ กลับขึ้นไปนำถึง 71-35 และชนะไปในที่สุด 76-35 เมื่อตบแดงลูกสุดท้าย ปิดแมตช์เอาชนะ สอง วัดพุทธไป 4 ต่อ 2 เฟรม เข้าไปรอพบผู้ชนะ ระหว่าง นคร ชาพล และ สมชาย กาวสำราญ ที่จะแข่งขันกันในเวลา 19.00 น. วันที่ 5 ก.ย. นี้ต่อไป
รอบ 32 คน โก๋ โคราช หักคิว นุ๊ก คอนหวัน ท่ามกลางกองเชียร์คับคั่งศึกแสงโสม โคราช คัพ สนุกเกอร์ชิงแชมป์ประเทศไทย ประจำปี 2555 ดิวิชั่น 1 รายการที่ 7 รอบ 16 คนสุดท้าย เริ่มขึ้นแล้วที่ห้อง Event Hall ชั้น 7 ห้างสรรพสินค้าคลังพลาซ่า จอมสุรางค์ จังหวัดนครราชสีมา โดยในคู่เปิดสนาม เป็นการพบกันในรอบ 32 คน ที่ยกมาแข่งที่นี่ เพราะมีนักกีฬาขวัญใจชาวโคราช นคร ชาพล หรือ โก๋ โคราช ลงสนามพบกับ ปรมินทร์ ด่านจิรกุล หรือ นุ๊ก คอนหวัน มือวางอันดับ 9 ของประเทศ เปืดเฟรมแรก นคร ชาพล เป็นฝ่ายเปิดเฟรมก่อน แล้วแทงไป 3 ไม้ๆละ 1 ชุด มี 2 ดำ 1 น้ำเงิน ออกนำไปในช่วงแรก 21-7 คะแนน แล้วเก็บเบรคสั้น ๆ 20 และ 17 แต้ม ขึ้นนำไปอีกที่ 58-7 ก่อนจะปิดเฟรมแรกไปด้วยสกอร์ 63-7 ขึ้นนำไปก่อน 1-0 เฟรม เฟรมที่สอง ปรมินทร์ตีคืนมาได้ แต่ก็ไม่มีใครสามารถเข้าเบรคยาว ๆ ได้เกิน 3 ชุด ปรมินทร์ชนะไปขาดลอยในเฟรมที่ 2 ด้วยคะแนน 54-19 มาเสมอกันที่ 1-1 เฟรม เฟรมที่สาม เป็นเฟรมแรกที่คะแนนออกมาสูสี โดยนครเป็นฝ่ายขึ้นนำไปก่อน 19-1 แต่มาโดนปรมินทร์กดเบรคยาวไม้เดียว 7 ชุด 54 แต้ม กลับมานำเป็น 55-19 และทำท่าจะปิดเฟรมได้ แต่พอปรมินทร์พลาดแดงลูกที่ 8 นคร ชาพลก็กวาดไม้เดียว 3 แดงและเหลืองถึงดำ ทำไป 48 แต้ม ปล้นชัยชนะไปสุดสวย ด้วยสกอร์ 67-55 ขึ้นนำเป็น 2 ต่อ 1 เฟรม เฟรมที่สี่ เป็นเฟรมที่ปรมินทร์ตีคืนมาได้อีกอย่างขาดลอยอีกครั้ง ด้วยการเก็บเล็กผสมน้อย มีเบรคไม่เกินไม้ละ 2 ชุด ชนะไปหลังจากเก็บเหลืองถึงน้ำเงิน ด้วยสกอร์ 64-19 มาเสมอกันอยู่ที่ 2 เฟรมเท่ากัน เฟรมที่ห้า ปรมินทร์ ทำท่าจะใส่เกียร์ห้า ออกมากดไม้แรก 31 แต้ม ขึ้นนำไป 31-8 แล้วคุมเกมในเฟรมนี้ได้อย่างต่อเนื่อง ชนะไปอีกในเฟรมนี้ที่ 74-10 ขึ้นแท่นนำโก๋ โคราชไป 3-2 เฟรม เล่นเอาแฟนชาวโคราชที่มาเป็นกำลังใจให้ โก๋ โคราช ถึงกับเงียบกันไป เฟรมที่หก ปรมินทร์ออกหน้าไปก่อนเช่่นเคย และนำไปก่อน 21-8 แล้วมาโดนโก๋กดเบรคยาว 9 ชุด 65 แต้ม เอาชนะไปในไม้เดียวด้วยสกอร์ 73-21 ทำให้เกมยังไม่จบ ต้องมาแข่งกันต่อในเฟรมสุดท้าย ท่ามกลางเสียงเฮของชาวโคราช เฟรมที่เจ็ด ซึ่งเป็นเฟรมชี้ชะตาว่าใครจะอยู่ใครจะไป โก๋ โคราช กดเบรคขึ้นนำไปก่อนในช่วงแรก 4 ชุด 25 แต้ม ปรมินทร์ตามมาติด ๆ ด้วยการแทง 2 ไม้ กลับมาขึ้นนำไปสูสีที่ 29-25 ก่อนจะถูก โก๋ โคราช ตีจากไปอีกไม้เดียว 38 แต้ม ขึ้นมานำไปเป็น 63-29 ที่สำคัญคือแต้มขาดลอยในขณะที่เหลือบนโต๊ะอยู่ 43 แต้ม ปรมินทร์พยายามขึ้นมาวางสนุ้กฯ แต่ไม่เป็นผล และโก๋ เก็บแดงได้อีก 1 ชุด ทำให้ปรมินทร์ลุกขึ้นมาจับมือ ยอมแพ้ไปในที่สุด ด้วยสกอร์ 71-29 สกอร์รวม 4-2 เฟรม จากชัยชนะในนัดนี้ ทำให้ โก๋ โคราช ลอยลำเข้ารอบ 16 คนสุดท้าย จะพบกับ สมชาย กาวสำราญ ในเวลา 19.00 น. คืนวันที่ 5 ก.ย. นี้
|