ประมวล จันทร์ทัด โค่น สุชาครีย์ พุ่มแจ้ง 5-4 คว้าแชมป์ประเทศไทย ปี 2555

เฟรมที่แปด ขวัญยังสู้ไม่ถอย ไล่ตีเสมอต้องตัดสินเฟรมสุดท้าย

การแข่งขันสนุกเกอร์ชิงแชมป์ประเทศไทย รายการ แสงโสม โคราชคัพ รอบชิงชนะเลิศ ที่ห้างสรรพสินค้าคลังพลาซ่า จ.นครราชสีมา เป็นการพบกันของมือวางอันดับที่ 5 ของไทย สุชครีย์ พุ่มแจ้ง หรือ ขวัญ สระบุรี พบกับม้ามืดเจ้าของเบรคสูงสุดของรายการ ประมวล จันทร์ทัด หรือ แมน เมืองสมุทร ที่ผ่านเข้ามาถึงรอบชิงชนะเลิศได้เป็นครั้งแรก โดยมีแฟนสนุกเกอร์เข้าชมการแข่งขันเต็มอัฒจรรย์ทั้งสองด้าน

เฟรมแรก สุชาครีย์เป็นฝ่ายออกนำไปก่อน เข้าเบรค 4 ชุด 30 แต้ม ขึ้นนำไป 30-0 ประมวล ตามมาในไม้ต่อไป แทงไป 3 แดง 2 ดำ 1 น้ำเงิน ไล่ตามมาที่ 22-30 แล้งโดนสุชาครีย์หนีไปอีก 4 ชุด อีก 30 แต้ม นำเป็น 60-22 ประมวลไม่ยอมน้อยหน้า กดเบรคอีก 4 ชุด ตามมา 30 แต้มเช่นกันท่ 52-60 ต้องมาชิงกันที่ลูกสี สุชาครีย์เป็นฝ่ายได้เหลือง แต่มาเสีย เขียวถึงชมพู ทำให้ ประมวล เอาชนะไปก่อนในเฟรมแรก 70-62 คะแนน ขึ้นนำไปก่อน 1 ต่อ 0 เฟรม ใช้เวลาไปเกือบ 30 นาที

เฟรมที่สอง สุชาครีย์ จับเบรคได้หลังจากที่เสียไป 2 แดง 1 ดำ 9 แต้ม เข้าเบรค 6 ชุดครึ่ง นำไปก่อน 42-9 ประมวล ตอบโต้ด้วยเบรค แดง-ดำอีก 4 ชุด 32 คะแนน ไล่ตามมาที่ 32-42 แต่มาโดนสุชาครีย์จับเบรคอีก 1 ไม้ ทำไปอีก 2 แดงและเหลืองถึงน้ำเงิน ทำไปอีก 25 แต้ม ชนะไปในเฟรมที่สอง ด้วยสกอร์ 67-32 ตีเสมอมาที่ 1 เฟรมเท่ากัน

เฟรมที่สาม สุชาครีย์ เปิดนำไปก่อน 2 ชุดดำกับอีก 1 แดง 17 แต้ม ประมวล โต้กลับ 2 ชุดเล็ก กลับมานำไป 32-17 แล้วมาได้ฟาล์วอีก 4 แต้ม นำไป 36-17 เกมออกเบียดและไม่มีใครเก็บเบรคยาวได้อีก หมด 15 แดง สุชาครีย์ตามหลังอยู่ 26-38 คะแนน ประมวลเก็บเหลือง ส่วยสุชาครีย์ได้เขียว ตามอยู่ที่ 29-40 และเป็นประมวลทีเก็บน้ำตาลและน้ำเงินได้ เอาชนะไป 49-29 คะแนน ใช้เวลาในเฟรมนี้ไปกว่า 30 นาที ประมวลกลับมานำ 2 ต่อ 1 เฟรม

เฟรมที่สี่ กลับมาเป็นของสุชาครีย์อีกครั้ง เมื่อเข้าเบรคได้ 2 ไม้ 37 และ 29 แต้ม ขึ้นนำไปขาดลอยที่ 70-0 และชนะไปในเฟรมนี้ 76-16 ไล่ตีเสมอมาเป็น 2 ต่อ 2 เฟรมเท่ากันอีก

เฟรมที่ห้า ประมวลเก็บชุดน้ำเงินไปก่อน แล้วเสียฟาล์วไป 2 ไม้ พร้อมกับเสียเบรคให้สุชาครีย์ไปอีก 3 ชุด ตามหลังสุชาครีย์อยู่ที่ 6-26 แต่มาจับเบรคยาวได้ 9 ชุด พร้อมเก็บเหลืองถึงน้ำเงิน โต้กลับไปด้วยเบรค 79 แต้ม เอาชนะไปในเฟรมที่ฟ้า ที่สกอ์ 85-26 กลับขึ้นมานำ 3 ต่อ 2 เฟรม

เฟรมที่หก เป็นเฟรมที่พลิกผันอย่างเหลือเชื่อ หลังจากที่สุชาครีย์เข้าเบรคนำไปก่อนถึง 62 แต้ม โดยแทงไป 8 ชุดครึ่ง แล้วมาพลาดสีชุดที่เก้า ทำให้แต้มไม่ขาด ประมวลค่อย ๆ ไล่ตามมาทีชุดสองชุด พร้อมเก็บสีมาจนได้ชิงสองหนึ่ง ขวัญต้องการชมพูเพียงลูกเดียว แต่ไม่สามารถเก็บชมพูได้ แถมประมวลได้โชคช่วยอีกครั้ง แทงชมพูแล้วขาวไปโหม่งจมูกหลุมกลางกลับมาหาดำ แล้วตบดำลงไป แซงเอาชนะไปอีกในเฟรมที่หก ขึ้นแท่นนำไปเป็น 4 ต่อ 2 เฟรม 

เฟรมที่เจ็ด สุชาครีย์หลังชนฝา แพ้อีกไม่ได้ แต่ก็ยังใจสู้ เก็บเบรคยาวไปก่อน 7 ชุด 44 แต้ม แล้วตามด้วยเบรคชุดใหญ่อีกเป็นชุดที่สอง ทำไปอีก 7 แดง บวกเหลืองถึงน้ำตาลอีก 52 แต้ม ชนะไปขาดลอย 101-0 ไล่จี้มาเป็น 3 ต่อ 4 เฟรม

เฟรมที่แปด สุชาครีย์เริ่มมีความมั่นใจขึ้น ยังคงเข้าเบรคนำไปอีกในไม้แรก 4 ชุดครึ่ง 31 แต้ม ตามด้วยเบรคย่อยอีก 2 ไม้ ออกนำไปก่อนที่ 38-0 ประมวลมาได้คืน 2 ชุดน้ำเงิน 12 แต้ม แล้วโดนสุชาครีย์บีบเกม เก็บแต้มเอาชนะไปได้อีกในเฟรมนี้ 58-12 คะแนน ไล่ตีเสมอได้สำเร็จที่ 4 เฟรมเท่ากัน ต้องไปตัดสินกันในเฟรมสุดท้าย

เฟรมที่เก้า เป็นเฟรมที่ทั้งคู่ต่างทำคะแนนเบียดกันมาตั้งแต่เริ่ม โดย ประมวลออกนำไปก่อน 2 ไม้ 12 แต้ม สุชาครีย์ตามมาตีเสมอกันที่ 15-15 แล้งประมวลหนีออกไปเป็น 31-21 สุชาครีย์ทำท่าจะปิดแมตช์ได้สำเร็จ เมื่อเข้าเบรคยาวตบ 4 แดงสุดท้าย ตามด้วยเหลือง แต่มาพลาดเขียว ได้ไป 33 แต้ม ขึ้นนำไปที่ 54-31 แล้วมาได้สนุ้กหลังน้ำตาล สุชาครีย์แก้ครั้งแรกไม่โดน เสียไป 4 แต้ม ประมวลไล่มาที่ 35-54 แล้วมากวาดเขียวถึงดำไม้เดียว 25 แต้ม ชนะไปในที่สุด 60-54 คว้าแชมป์ประเทศไทยปี 2555 ไปครอง พร้อมรางวัลเบรคสูงสุด 141 คะแนน  ได้รับถ้วยแชมป์ประเทศไทย จาก นายสกล วรรณพงษ์ รองผู้ว่าการ การกีฬาแห่งประเทศไทย ที่กรุณาให้เกียรติเดินทางจากกรุงเทพฯ มาเป็นประธานในการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ

 

**อันดับคะแนนหลังจบฤดูกาล ปี 2555**

 

เอ๋ พนม ขณะบรรจงสอยคิวในการแข่งขันรอบรองชนะเลิศ

เอ๋ พนม ขณะบรรจงสอยคิวในการแข่งขันรอบรองชนะเลิศ

รอบรองฯคู่ที่สอง ขวัญ สระบุรี กด เอ๋ พนม 4-0 เช้าชิงฯเป็นปีที่สองติดต่อกัน

สำหรับการแข่งขันรอบรองชนะเลิศคู่ที่สอง ระหว่าง สุชาครีย์ พุ่มแจ้ง หรือ ขวัญ สระบุรี พบกับ พนมไพ พ่อวิเศษ หรือ เอ๋ พนม ที่แข่งกันเมื่อเวลา 16.00 น. 

เฟรมที่หนึ่ง สุชาครีย์ อาศัยความเก๋าเกมกว่า เข้าเบรค 57 แต้ม นำไปถึง 66-10 เมื่อเหลือ 2 แดง พนมไพลุกขึ้นมาตบ 2 แดงกินดำ 2 ชุด 16 แต้ม แล้วตามด้วยเหลืองถึงน้ำตาลในไม้ต่อมาอีก 9 แต้มแต่ก็ไม่พอ ยอมแพ้ไปก่อนในเฟรมแรก 35-66

เฟรมที่สอง เป็นเฟรมที่ สุชาครีย์ พลาดรางวัลเซ็นจูรี่เบรคไปอย่างน่าเสียดาย โดยเข้าเบรคไป 10 ชุด พร้อมกวาดเหลืองถึงดำไม้เดียวหมดโต๊ะ แต่ได้ไปเพียง 98 แต้ม ชนะไปในเฟรมนี้ 110-9 ขึ้นนำไป 2 ต่อ 0 เฟรม

เฟรมที่สาม ยังคงเป็น สุชาครีย์ ที่คุมรูปเกม ทำคะแนนได้อยู่ฝ่ายเดียว โดยมีเบรคอีก 47 แต้ม แล้วเอาชนะไปในเฟรมที่สาม 69-10 ขึ้นแท่นนำไป 3 ต่อ 0 เฟรม

เฟรมที่สี่ สุชาครีย์ เครื่องร้อน คุมรูปเกมทำคะแนนอยู่ฝ่ายเดียวเหมือนเฟรมที่ผ่านมา พร้อมทำเบรค 15, 22 และ 28 แต้ม เอาชนะไปอีก 69-9 คะแนน ฉลุยเข้่าไปชิงชนะเลิศในวันอาทิตย์ กับ ประมวล จันทร์ทัด เริ่มแข่งขันเวลา 13.30 น. โดยทาง สทท 11 จะทำการถ่ายทอดสดในเวลา 14.30 น. เช่นเคย

  

ประมวล จันทร์ทัด ใช้เรสต์ตบชมพูในเฟรมที่สองไม่ลง ก่อนจะมาฟลุ้คชมพูที่หลุมกลาง ขึ้นนำ 2-0 เฟรม

ประมวล จันทร์ทัด ใช้เรสต์ตบชมพูในเฟรมที่สองไม่ลง ก่อนจะมาฟลุ้คชมพูที่หลุมกลาง ขึ้นนำ 2-0 เฟรม

แมน เมืองสมุทร หยุด บิ๊ก สระบุรี 4-1 เข้าชิงแชมป์ประเทศไทยครั้งแรก

การแข่งขันสนุกเกอร์ชิงแชมป์ประเทศไทย รายการแสงโสมโคราชคัพ ที่ห้างสรรพสินค้าคลังพลาซ่า จ.นครราชสีมา รอบรองชนะเลิศคู่แรก ประมวล จันทร์ทัด หรือ แมน เมืองสมุทร ลงดวลคิวกับมือวางอันดับหนึ่งของรายการและของประเทศ อรรถสิทธิ์ มหิทธิ เจ้าของแชมป์ 2 รายการซ้อน ที่กำลังไล่ล่าแชมป์ประเทศไทยให้กับตัวเองเป็นครั้งแรก

เฟรมแรก อรรถสิทธิ์ เป็นผู้เปิดเฟรมก่อน ประมวลตบแดงแรกกินน้ำเงินนำไปก่อน 6-0 อรรถสิทธิ์เก็บแดง บวกกับชุดน้ำเงินกับดำไปอีก 2 ชุด กลับมานำ 15-6 อรรถสิทธิ์ ซึ่งดูฟอร์มยังไม่เข้าที่ มีผิดพลาดลูกง่าย ๆ หลายครั้ง จึงเป็นโอกาสให้ประมวล กวาดแดง 6 ลูกสุดท้ายพร้อมสีหมดโต๊ะ 73 คะแนน เอาชนะไปก่อนในเฟรมแรก 106-19 ขึ้นนำไปก่อน 1 ต่อ 0 เฟรม

เฟรมที่สอง อรรถสิทธิ์ เป็นฝ่ายขึ้นนำก่อน คราวนี้ทำไป 4 ชุดครึ่ง 31 คะแนน ประมวลใาได้คืน 1 ชุดน้ำเงิน แล้วมาเสียเบรคที่สองให้อรรถสิทธิ์อีก 3 ชุด 21 คะแนน อรรถสิทธิ์ขึ้นนำ 52-6 ทำท่าจะตีเสมอได้ แต่ประมวลก็ตบแดงลูกยาก พร้อมเข้าเบรคอีก 6 ชุด แล้วกวาดเหลืองถึงน้ำเงิน วางตัวไว้กินชมพูที่ต้องการอีกเพียงลูกเดียว แต่ใช้เรสต์พลาด ทำให้อรรถสิทธิ์มีโอกาสชิงสองหนึ่ง แต่โชคร้าย ประมวลไปฟลุ๊คชมพูที่หลุมกลาง ทำให้ได้เฟรมที่สองไปท่ามกลางเสียงฮือฮาของแฟนสนุกเกอร์รอบสนามด้วยสกอร์ 70-52 ประมวลนำ 2 ต่อ 0 เฟรม

เฟรมที่สาม  ประมวลได้ใจ ยังคงทำแต้มนำไปอย่างต่อเนื่อง ด้วยเบรค 20 ในไม้แรก ตามด้วย 24 และอีก 27 รวม 3 ไม้ ชนะไปอีกในเฟรมที่สามที่ 71-14 ขึ้นนำไปถึง 3 ต่อ 0 เฟรม

เฟรมที่สี่ อรรถสิทธิ์หลังชนฝา แพ้อีกไม่ได้แล้ว เข้าเบรคออกนำไปก่อน 8 ชุด 55 แต้ม แล้วคุมรูปเกมเอาชนะไปในเฟรมนี้ขาดลอย ด้วยสกอร์ 76-7 ตีไข่แตกมาเป็น 1 ต่อ 3 เฟรม

เฟรมที่ห้า ทั้งสองเปิดฉากป้องกันและวางสนุ้กกันตั้งแต่แรก โดยประมวลได้ฟาล์วไปก่อน 2 ครั้ง คะแนนยังสูสีกันอยู่โดยประมวลนำอยู่ที่ 16-9 ประมวลเริ่มตีจากไปด้วยเบรคอีก 4 ชุด 24 แต้ม นำห่างออกไปที่ 41-9 อรรถสิทธิ์พยายามไล่ตามมาทีละน้อย แต๋ก็โดนประมวลเข้าเบรคไปอีก 3 แดง 2 ชมพู นำไปเป็น 56-14 ตามหลังอยู่ 42 แต้ม บนโต๊ะมี 2 แดง 43 คะแนน ทำให้อรรถสิทธิ์ต้องกินแดงเก็บดำทั้ง 2 ชุดแล้วเก็บที่เหลือให้หมดโตีะ และก็เก็บแดงกินดำไปได้ พร้อมวางขาวกินเหลือง ต่อด้วยเขียว แต่วางตัวเบาเกินไป ทำให้ต้องฝืนขาวกลับมาหาน้ำตาล ทำให้ขาวไปเข้าสนุ้กจมูก ต้องแก้ไขลูกน้ำตาล ซึ่งแก้แก้ไขไปได้ อรรถสิทธิ์เป็นรอง 21 แต้มที่ 35-46 และเหลือน้ำตาลถึงดำ 22 คะแนน ต้องเก็บให้หมด แต่โชคไม่เข้าข้าง ประมวลไปฟลุ๊คลูกน้ำตาลที่หลุมกลางอีกครั้ง ทำให้แต้มขาดลอยไปที่ 35-60 อรรถสิทธิ์ต้องวางถึง 2 สนุ้ก แต่ก็พยายามอยู่หลายไม้ จนในที่สุด ประมวลก็ตบน้ำเงินชนะไปในที่สุด 65-35 และสกอร์รวม 4 ต่อ 1 เฟรม ผ่านเข้าไปรอชิงชนะเลิศกับผู้ชนะ ระหว่าง ขวัญ สระบุรี กับ เอ๋ พนม ที่จะแข่งต่อเป็นคู่ต่อไป

ประมวล จันทร์ทัด โค่น ไพฑูรย์ ผลบุญ 4-2 เจอ อรรถสิทธิ์รอบรองฯ

ประมวล จันทร์ทัด โค่น ไพฑูรย์ ผลบุญ 4-2 เจอ อรรถสิทธิ์รอบรองฯ

ไพฑูรย์ แทง 2 เฟรม ๆ ละ 80 กับ 83 ชวดรางวัลเซ็นจูรี่รางวัลละ 2 พันบาทไปถึง 2 ครั้ง

การแข่งขันรอบ 8 คนคู่สุดท้ายวันนี้ ประมวล จันทร์ทัดหรือ แมน เมืองสมุทร ลงดวลคิวกับ ไพฑูรย์ ผลบุญ หรือ ตัวเล็ก สำโรง เพื่อหาผู้ชนะเข้าไปแข่งกับ อรรถสิทธิ์ มหิทธิ ในรอบรองชนะเลิศในวันเสาร์ที่ 8 ก.ย. นี้

เฟรมแรก ประมวลเปิดเฟรมก่อน ไพฑูรย์ตบแดงแรกได้ไปเพียง 1 คะแนน แล้วโดนประมวล เข้าเบรค 4 แดง 1 น้ำเงิน 2 ดำ ทำไป 23 แต้ม ขึ้นนำ 23-1 ไพฑูรย์มาเก็บชุดดำได้อีก 1 ชุด ตามมาเป็น 9-23 แล้วมาโดนประมวลจับเบรคอีก 4 ชุด 30 แต้ม เขยิบห่างไปเป็น 53-9 ตามมาด้วยเบรคอีก 5 แดง 2 น้ำเงิน 1 ดำ 1 น้ำตาล อีก 26 แต้ม นำโด่งไปที่ 79-9 ไพฑูรย์ลุกขึ้นมาออกคิว แทงจากเหลืองถึงน้ำตาลแล้วยอมแพ้ไปในเฟรมแรก 18-79 ประมวลขึ้นนำ 1 ต่อ 0 เฟรม

เฟรมที่สอง ไพฑูรย์ ออกฤทธิ์ กดสองเบรค 22 และ 83 แต้ม ใช้เวลาเพียง 12 นาที เอาชนะไปในเฟรมนี้แบบไข่ไม่แตก 105-0 คะแนน ไพฑูรย์พลาดโอกาสที่จะทำเซ็นจูรี่ เพื่อรับเงินรางวัล 2,000 บาท จากสโมสรกีฬาบิลเลียด-สนุกเกอร์ จ.นครราชสีมา หลังพลาดลูกเหลือง ทำไป 83 แต้ม  แต่ก็ไล่ตีเสมอมาที่ 1 เฟรมเท่ากัน

เฟรมที่สาม เป็นเฟรมที่ต่อสู้กันอย่างสูสีที่สุด โดยไพฑูรย์ขึ้นนำไปก่อนที่ 21-11 ประมวลตามมาติด ๆ แล้วขึ้นนำไป 24-21 ไพฑูรย์เข้าเบรค 2 ชุด หนีไปเป็น 32-24 ประมวลกลับมานำหลังตบไป 3 ชุดที่ 45-32 แล้วก็ถูกไพฑูรย์ตามติดมาที่ 44-45 ด้วยการตบแดงลูกสุดท้าย แล้วไล่เหลืองถึงน้ำตาล แต่เป็นแระมวล ที่เก็บน้ำเงินและชมพูไปอีก 11 แต้ม เอาชนะไปในเฟรมนี้ด้วยสกอร์ 56-44 ประมวลขึ้นนำ 2 ต่อ 1 เฟรม

เฟรมที่สี่ เป็นอีกเฟรมหนึ่งที่ไพฑูรย์ มีโอกาสทำเซ็นจูรี่ได้ หลังจากที่ประมวลออกนำไปก่อน 3 แดง 2 ดำ นำไป 17 แต้ม ไพฑูรย์ก็เข้าเบรค 11 ชุด แล้วมาพลาดแดงลูกสุดท้าย ทำไปอีก 80 แต้ม ชวดโอกาสหยิบรางวัลเบรค 2 พันบาทไปอีกครั้ง แต่ก็ไล่ตีเสมอได้ที่ 2 เฟรมเท่ากัน

เฟรมที่ห้า ทั้งคู่ยังคงผลัดกันนำผลัดกันตาม โดยไพฑูรย์ขึ้นนำไปก่อนด้วยเบรค 3 ชุด 20 แต้ม ประมวลตีคืนมาได้ 4 ชุด 29 แต้ม ขึ้นนำ 29-20 แล้วมาโดนสนุ้กฯเสียฟาล์วแอนด์มิสไป 2 ครั้ง 11 แต้ม ไพฑูรย์นำ 31-29 ประมวลมาเก็บชุดเหลืองกับอีก 1 แดง กลับขึ้นมานำ 33-31 แล้วโดนไพฑูรย์เข้าเบรคไปอีก 3 ชุด 18 แต้ม กลับไปนำที่ 49-33 ก่อนที่จะโดนประมวลเก็บ 2 แดงสุดท้ายแล้วกวาดเหลืองถึงชมพู 33 แต้ม เอาชนะไปในเฟรมที่ห้าด้วยสกอร์ 66-49 ขึ้นแท่นไปก่อนที่ 3 ต่อ 2 เฟรม

เฟรมที่หก ประมวลเป็นฝ่ายเข้าทำก่อน แล้วคุมเกมได้เป็นส่วนใหญ่ ออกนำไปจาก 2 ไม้ 38-6 คะแนน ไพฑูรย์ตามมา 1 ชุดชมพู แล้วมาเสียฟาล์วไป 4 แต้ม ทำให้ประมวลขึ้นนำไป 42-13 ไพฑูรย์ไล่ตามมาอีก 2 ชุด 9 คะแนน แล้วโดนหนีไปอีก 3 ชุด 18 คะแนน ก่อนที่ประมวลจะตบแดงลูกสุดท้าย ชนะไปที่ 61-22 ผ่านเข้ารอบ 4 คนสุดท้ายไปพบอรรถสิทธิ์ ในเวลา 13.00 น. วันเสาร์ที่ 8 ก.ย. นี้

 

อรรถสิทธิ์ ย้ำแค้น สุพจน์ ชนะอีก 4-2 เฟรมในรอบ 8 คน

อรรถสิทธิ์ ย้ำแค้น สุพจน์ ชนะอีก 4-2 เฟรมในรอบ 8 คน

บิ๊ก สระบรี ยังมีสิทธิ์ลุ้นแฮตทริก 3 แชมป์ติด โค่น แจ็ค เชียงใหม่ 4-2

การแข่งขันรอบ 8 คนในคู่ที่สาม เวลา 16.00 น. วันนี้ ต้องล่าช้าไปประมาณครึ่งชั่วโมง เพราะต้องนำการแข่งขันเฟรมที่เจ็ดที่ตกค้างมาตั้งแต่คู่แรก ระหว่าง เอ๋ พนม กัย ชาย โซโห กลับมาแข่งขันกันต่อให้จบเสียก่อน ซึ่งผลปรากฎว่า เอ๋ พนม เอาชนะ ชาย โซโหไปในเฟรมตัดสิน ตามที่ได้รายงานไปแล้ว

การแข่งขันคู่ต่อมา เป็นการพบกันของคู่ชิงชนะเลิศรายการที่ 6 ที่ จ.อุบลราชธานีเมื่อปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ระหว่างมือวางอันดับ 1 อรรถสิทธิ์ มหิทธิ พบกับ อดีตมือวางอันดับ 1 เมื่อฤดูกาลที่แล้ว สุพจน์ แสนหล้า ทั้งคู่เคยเจอกันมาล่าสุดในรอบชิงชนะเลิศรายการที่ 6 ที่เนวาด้า คอมเพล็กซ์ จ.อุบลราชธานี โดย บิ๊ก สระบุรี เป็นผู้คว้าชัยชนะคว้าแชมป์รายการที่ 6 ไปครอง

เฟรมแรก บิ๊ก สระบุรี เป็นผู้เปิดเฟรมก่อน แล้วมาได้ฟาล์วไป3 ไม้ ๆ ละ 6-7 แต้ม ขึ้นนำ แจ็ค เชียงใหม่ไปก่อน 19-0 ตามด้วยการตบแดงกินดำอีก 1 ชุด นำไปที่ 27-0 สุพจน์เข้าเบรคเล็ก ๆ ไป 3 ชุดตามมาที่ 20-27 แล้วมาเสียฟาล์วไป 5 แต้ม ทำให้บิ๊กขึ้นนำไปที่ 32-20 และ 32-28 หลังแจ็ค เชียงใหม่ตบแดงกินดำไปอีก 1 ชุด อรรถสิทธิ์มาจับเบรคยาวได้เป็นไม้แรก ด้วยการตบแดงสลับกับดำไป 5 ชุดครึ่ง ทำไป 41 แต้ม ขึ้นนำสุพจน์ไปถึง 74-28 ขณะที่เหลือแดงเพียง 2 ลูก ขาดลอยไป 1 สนุ้กฯ  สุพจน์วางได้สำเร็จ และอรรถสิทธิ์แก้ไม่โดน เสียไป 4 แต้ม ทำให้สุพจน์ ลุกขึ้นมากวาด 2 ชุดดำ ตามด้วยเหลืองถึงดำหมดโต๊ะ พลิกเอาชนะไปในเฟรมแรกอย่างสูสี ด้วยสกอร์ 75-74 คะแนน

เฟรมที่สอง สุพจน์เป็นฝ่ายเข้าเบรคก่อน 1 ดำ 2 น้ำเงิน ทำไป 20 แต้ม แล้วมาโดน อรรถสิทธิ์ กดตูมเดียว 11 ชุด 79 แต้ม ขึ้นนำไปถึง 79-20 สุพจน์รู้ตัวว่าไม่ได้ออกคิว ลุกขึ้นมาตบแดงกินดำไปได้อีก 1 ชุด  แล้วไปต่อไม่ได้ ยอมแพ้ไปในเฟรมนี้ 28-79  ตีเสมอกันที่ 1-1

เฟรมที่สาม เป็นเฟรมของ อรรถสิทธิ์ เพียงคนเดียวที่ทั้งกันทั้งกิน หลังจากได้ฟาล์วมา 4 แต้ม และตบอีกไป 1 แดง ก็กลับมาเข้าเบรค 2 ไม้ ๆ แรก 6 ชุดครึ่ง 37 แต้ม และไม้ที่สอง 7 ชุด พร้อมกับเหลืองถึงน้ำเงิน ชนะไปในเฟรมนี้ด้วยสกอร์ 104-0 ขึ้นนำไปเป็น 2 ต่อ 1 เฟรม

เฟรมที่สี่ เป็นเฟรมที่ทั้งสองฝ่ายต่อสู้กันอย่างสูสี โดยอรรถสิทธิ์ขึ้นนำไปก่อนจากเบรค 4 ชุด 24 แต้ม สุพจน์ โต้กลับมา 5 ชุด 33 แต้ม กลับขึ้นมานำ 37-25 ก่อนที่อรรถสิทธิ์จะเก็บคะแนนไปอีก 2 ไม้ ขึ้นมานำที่ 46-37 เมื่อหมดแดง 15 ลูก ต้องมาชิงกันที่ลูกสี สุพจน์เก็บเหลืองได้ไปก่อน แต่มาโดนอรรถสิทธิ์วางสนุ้กฯ สุพจน์แก้ไม่ได้ เสียไป 4 แต้ม แล้วเปิดโอกาสให้อรรถสิทธิ์เก็บเขียว น้ำตาล และน้ำเงินไปทีละไม้ ชนะไปอีกในเฟรมนี้ 62-39 ขึ้นแท่นนำไปเป็น 3 ต่อ 1 เฟรม

เฟรมที่ห้า สุพจน์แพ้อีกไม่ได้แล้ว โดนอรรถสิทธิ์ออกนำไปก่อน 23-11 ก่อนจะมีโอกาสเข้าเบรคไม้เดียว 7 ชุด 49 แต้ม กลับขึ้นมานำ 60-23 ตามด้วยการเก็บแดงลูกสุดท้าย กินเหลือง นำไปเป็น 65-23 แต้มขาดลอย อรรถสิทธิ์พยายามจะวางสนุ้กฯ แต่ไม่สำเร็จ สุพจน์แทงเขียวฟาล์ว อรรถสิทธิ์ได้มาอีก 4 แต้ม แต่ก็ยอมแพ้ไปในเฟรมนี้ด้วยสกอร์ 27-65 คะแนน 

เฟรมที่หก อรรถสิทธิ์พุ่งออกจากเส้นสตาร์ท กดเบรค 5 ชุด 37 แต้ม นำไปก่อนในช่วงแรก สุพจน์มาตีคืนได้จากการเข้าเบรคแทงไป 6 ชุด 32 แต้ม แล้วมาพลาดแดงลูกง่าย ทั้ง ๆ ที่ลูกยืนรับหมดแล้ว ทำให้อรรถสิทธิ์ลุกขึ้นมากวาดไม้เดียวหมดโต๊ะ 4 ชุดและเหลืองถึงดำ 52 แต้ม ชนะไปในที่สุด 89-32 คะแนน รวม 4 ต่อ 2 เฟรม เข้าไปรอพบผู้ชนะของคู่ต่อไป ระหว่าง ไพฑูรย์ ผลบุญ กับ ประมวล จันทร์ทัด ในรอบรองชนะเลิศ

ขวัญ สระบุรี นั่งมองอิศรา กะไชยวงษ์เข้าเบรคในเฟรมแรก

ขวัญ สระบุรี นั่งมองอิศรา กะไชยวงษ์เข้าเบรคในเฟรมแรก

อิศ ขึ้นนำก่อน 3-1 โดนไล่มา 3 เท่า หลังจบไปหกเฟรม เฟรมที่เจ็ด โดน 3 เบรค รวม 99 แต้ม แพ้ขวัญไปในที่สุด

การแข่งขันรอบ 8 คนคู่ที่สอง เมื่อเวลา 13.00 น. ที่ผ่านมา เป็นการพบกันระหว่างมือ ท๊อปไฟว์ของประเทศ 2 คน คือ อิศรา กะไชยวงษ์ หรือ อิศ จันท์ กับ สุชาครีย์ พุ่มแจ้ง หรือ ขวัญ สระบุรี โดยอิศรา ชนะผ่าน กอบกิจ พลาจิณ มาในรอบ 16 คน เนื่องจากกอบกิจ ต้องเดินทางไปแข่งขันพูล 9 ลูกที่ฟิลิปปินส์ ส่วน สุชาครีย์ เอาชนะ ยุทธภพ ภาคพจน์ มาในรอบ 16 คนอย่างขาดลอย 4 ต่อ 0 เฟรม

เฟรมแรก อิศรา เป็นผู้เปิดเฟรมก่อน แล้วตบแดงกินน้ำตาล ตามด้วยอีก 1 แดง ได้ไป 6 แต้ม ขวัญ ตบแดงกินเหลืองตามด้วยอีก 1 แดง ได้ไป 3 แต้ม แล้วโดนอิศเข้าเบรคยาว 5 ชุดครึ่ง 33 คะแนน ขึ้นนำไป 39-4 ขวัญมาเก็บอีก 1 แดง ตามด้วยอีก 4 แดงสุดท้ายพร้อมเหลืองและเขียวในไม้ต่อมา ตามมาสูสีกันอยู่ที่ 37-39 เหลือ 4 ลูกบนโต๊ะ 22 คะแนน อิศราเก็บ้ำตาลได้ก่อน 1 ไม้ แล้วตามด้วยน้ำเงินและชมพูในไม้ต่อมา เอาชนะไปก่อนในเฟรมแรกด้วยสกอร์ 54-37 ขึ้นนำขวัญ สระบุรีไป 1 ต่อ 0 เฟรม

เฟรมที่สอง ขวัญวางสนุ้กได้มาก่อน 4 แต้ม แล้วเข้าเบรคยาวไม้เดียว 8 ชุด 57 แต้ม ขึ้นนำไปก่อนถึง 61-0 อิศเข้าเบรคตามมาทันทีในไม้ต่อมา กดไป 5 ชุด 32 แต้ม ไล่มาที่ 32-61 แต่มาพลาดลูกแดงลูกที่ 14 ข้างชิ่งสุดเอื้อม กลับมาตั้งให้ขวัญเก็บแดงที่เหลืออีก 2 ลูกแล้วกวาดเหลืองถึงน้ำเงิน เอาชนะไปในเฟรมที่สอง ด้วยสกอร์ 87-32 ตีเสมอมาเป็น 1 เฟรมเท่ากัน

เฟรมที่สาม อิศราเป็ยฝ่ายทำคะแนนนำไปก่อนด้วยเบรค 4 ชุด 32 แต้ม บวกกับเก็บเล็กผสมน้อย ขึ้นนำไปถึง 52-0 หลังผ่านไปได้ 10 แดง ขวัญ มาจับเบรคชุดดำได้ 3 ชุด ไล่มาที่ 24-52 แต่เป็นอิศราที่เก็บ 2 แดงสุดท้าย แล้วเอาชนะไป 58-24 ขึ้นนำเป็น 2 ต่อ 1 เฟรม

เฟรมที่สี่ อิศเป็นฝ่ายขึ้นนำด้วยเบรค 3 ชุดครึ่ง 17 คะแนน ขวัญโต้กลับมาได้ 3 ชุด กลับมานำที่ 19-17 ก่อนจะโดนอิศสอยเบรค 7 ชุด 52 แต้ม ชนะไปในเฟรมนี้ 69-19 ใช้เวลาแข่งขันเฟรมนี้เพียง 11 นาที อิศขึ้นนำ 3 ต่อ 1 เฟรม

เฟรมที่ห้า หลังจากที่ทั้งสองแลกเกมป้องกันๆอยู่ในช่วงแรกโดยที่ไม่มีใครทำอะไรได้ ขวัญ ก็เป็นฝ่ายออกนำไปก่อนบ้าง โดยตบไป 3 ชุด 22 แต้ม อิศมาได้ฟาล์วจากขวัญ 4 แต้ม แล้วตบไปอีก 2 แดง 1 เหลือง ตามมาเป็น 8-22 ขวัญตามด้วยเบรคยาวอีก 8 ชุด 54 แต้ม ชนะไปขาดลอย 76-8 ไล่ตามมาเป็น 2 ต่อ 3 เฟรม

เฟรมที่หก อิศราจับเบรคแรกได้ก่อน 3 ชุด 22 แต้ม ตามด้วยการตบแดงกินน้ำเงินอีก 3 ชุด อีก 19 แต้ม รวม 2 ไม้ นำขวัญไป 41-0 ขวัญตีคืนด้วยการเข้าเบรค 6 แดง 5 ชมพู ตีืนมา 36 แต้ม ไล่ตามมาติด ๆ อิศราเก็บแดงไปได้อีก 2 ลูกสุดท้ายแต่ไม่มีสี ขึ้นนำที่ 43-36 และเป็นขวัญที่จับเบรคอีกไม้ไล่สีตั้งแต่เหลืองถึงชมพู 20 แต้ม ชนะไปในเฟรมนี้ 56-43 ตีเสมอที่ 3 เฟรมเท่ากันได้สำเร็จ ต้องตัดสินกันในเฟรมสุดท้าย

เฟรมที่เจ็ด อิศราเป็นผู้เปิดเฟรมก่อน แล้วได้แต่นั่งดูขวัญเข้าเบรค 3 ไม้ โดยไม้แรก แทงไป 4 แดง 4 ดำ นำไปก่อน 32-0 เบรคที่สอง กดไปอีก 5 แดง 3 น้ำเงิน 1 ดำ ทำไปอีก 27 แต้ม รวม 2 เบรคขึ้นนำไป 59-0 เหลือ 6 แดงบนโต๊ะ 75 แต้ม แต่อิศก็ยังไม่สามารถทำแต้มได้ จนขวัญกลับมาเข้าเบรคอีกครั้ง คราวนี้ ตบไปอีก 6 แดงที่เหลือ ทำไปอีก 40 แต้ม ชนะไปขาดลอยในเฟรมตัดสิน 99-0 คะแนน พลิกกลับมาเอาชนะ อิศ จันท์ ไป 4-3 เฟรม เข้ารอบรองชนะเลิศไปเป็นคนแรก

 

สมชาย กาวสำราญ กดเบรค 80 แต้ม ไล่ตีเสมอ พนมไพ ในเฟรมที่หก

สมชาย กาวสำราญ กดเบรค 80 แต้ม ไล่ตีเสมอ พนมไพ ในเฟรมที่หก

เอ๋ พนม เข้ารอบรองชนะเลิศ กด ชาย โซโห อยู่หมัดเฟรมตัดสิน

ผลการแข่งขันสนุกเกอร์ "แสงโสม โคราช คัพ 2012" ดิวิชั่น 1 รายการที่ 7  ชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทยที่ห้างสรรพสินค้าคลังพลาซ่า จ.นครราชสีมา รอบ 8 คนสุดท้ายคู่แรก เมื่อเวลา 10.00 น. เป็นการพบกันของสายบน ระหว่าง พนมไพ พ่อวิเศษ หรือ เอ๋ พนม ที่เอาชนะ ธัณยธรณ์ ธนพสิฐพงศ์ หรือ สอง วัดพุทธ มาได้ในรอบ 16 คน 4-2 เฟรม  ลงสนามพบกับ นักสอยคิวรุ่นพี่ มืออันดับ 8 ของประเทศ สมชาย กาวสำราญ หรือ ชาย โซโห ที่เอาชนะนักสอยคิวเจ้าถิ่น นคร ชาพล หรือ โก๋ โคราช มาในรอบ 16 คน 4-3 เฟรม

เฟรมแรก สมชายเป็นฝ่ายเปิดเฟรม แล้วขาวเปลี่ยนเสียไปก่อน 4 แต้ม  แต่มาเข้าเบรคได้ในไม้ต่อมา ทำไป 4 ชุดครึ่ง แดง-ดำล้วน ๆ 33 คะแนน นำไปก่อน 33-4 เอ๋ ได้คืนมาแค่ 1 ชุดนำเงินกับอีก 1 แดง ตามมาที่ 11-33 แต่ก็โดน ชาย โซโห เข้าเบรคอีกในไม้ที่สอง ทำไปอีก 5 ชุด 32 แต้ม นำโด่งไปที่ 65-11 เอ๋ พยายามทำแต้มคืน แต่ก็ยังเข้าเบรคไม่ได้ แล้วแพ้ในในเฟรมแรกหลังจากที่ ชาย โซโห ตบเหลือง แล้วแทงกันลูกเขียว ชนะไป 68-20 นำไปก่อน 1 ต่อ 0 เฟรม

เฟรมที่สอง เอ๋ พนม เป็นฝ่ายเปิดเฟรมบ้าง แล้วเสียฟาล์วไปทันที 4 แต้มเช่นกัน แต่ก็มาได้คืนจากการที่สมชาย ทำฟาล์วในไม้ต่อมา แจกกันไปก่อนคนละ 4 แต้ม หลังจากนั้น เอ๋ พนม จับได้อีก 2 ไม้ ๆ ละ 1 ชุด นำไปที่ 16-4 สมชายได้ชุดน้ำเงินคืนมาที่หลุมกลาง ตามมาที่ 10-16 แต่โดนเอ๋ เข้าเบรคยาวไม้เดียว 5 ชุดครึ่ง 38 แต้ม นำโด่งไปที่ 54-10 สมชายมาตีคืนได้อีก 2 ชุด 14 แต้ม ตามมาห่าง ๆ ที่ 24-54 แล้วก็เป็น เอ๋ พนม ที่ปิดเฟรมที่สองไปด้วยคะแนน 75-24 มาเสมอกันที่ 1 ต่อ 1 เฟรม

เฟรมที่สาม สมชาย เข้าทำก่อนทันที หลังจากถูกตีเสมอมาในเฟรมที่สอง เข้าเบรค 4  ชุด 2 ดำ 2 น้ำเงิน 28 แต้ม ตามด้วยดำอีกชุดครึ่ง นำไปก่อน 37-0 พนมไพ มาตีคืนได้ด้วยเบรค 3 ชุดครึ่ง ชมพูล้วน ๆ 22 คะแนน แล้วโดนสมชายเขยิบหนีไปอีก 1 ชุดดำที่ 44-22  หลังจากนั้น ก็ไม่มีใครเข้าเบรคอะไรได้ จนเหลือแดงสุดท้าย สมชายนำอยู่ 33 แต้มที่ 61-28 ทำให้ เอ๋ พนม ต้องเก็บแดงลูกสุดท้ายแล้วกินชมพู เพื่อให้มีสิทธิ์ชิง แต่กินสีไม่ได้ ต้องวางถึง 2 สนุ้กฯ สมชายแก้ไม่โดน เอ๋ได้มา 4 แต้ม ไล่ตามมาที่ 33-61 ขาดอีก 1 สนุ้กฯ แต่สมชายเก็บเหลืองได้ ขึ้นนำไปอีกที่ 63-33 เอ๋ พยายามวางสนุ้กฯต่อ สมชาย เก็บเขียวถึงชมพูไปอีก 18 แต้ม ชนะไปในเฟรมที่ 3 ด้วยสกอร์ 81-33 ขึ้นนำไป 2 ต่อ 1 เฟรม

เฟรมที่สี่ พนมไพเป็นฝ่ายเปิดเฟรม และเป็นผู้ตบแดงแรกลงไปแล้ววางสนุ้ก สมชายแก้ไม่โดนเสียไปก่อน 4 แต้ม พนมไพได้อีก 1 แดงแต่พลาดสี เปิดโอกาสให้สมชายเข้าเบรค 3 น้ำเงิน 1 ดำ 26 แต้ม กลับขึ้นมานำ 26-6 พนมไพ ตีคืนมาได้ 1 เบรค 3 ชุด 19 แต้ม ตามมาสูสีกันที่ 25-26 แล้วขึ้นนำไปที่ 47-27 เมื่อเหลือแดง 2 ลูก สมชายมาได้ฟาล์วจากพนมไพ 6แต้ม แล้วต่อเบรคอีก 2 แดงและเก็บสีถึงลูกเขียว กลับมานำพนมไพ 48-47 เกมเบียดกันมากในช่วงท้ายเกม พนมไพ เก็บน้ำตาลต่อน้ำเงิน ได้มาอีก 9 แต้ม ขึ้นนำ 56-48 สมชายเป็นรอง 2 ต่อ 1 ลูก เก็บชมพูได้ ตามมาที่สกอร์ 54-56 แต่ต้องมากันลูกดำ และพนมไพตบดำได้ในที่สุด ชนะไปเฉียดฉิว 63-54 ตีเสมอเป็น 2 ต่อ 2 เฟรม

เฟรมที่ห้า สมชายเป็นผู้เปิดเฟรม แล้วเสียฟาล์วไป 2 ไม้ 8 คะแนน ก่อนจะตบแดงแล้วมาวางสนุ็กฯ ได้คืนมา 4 คะแนน เกมช่วงแรกยังไม่มีใครจับเบรคยาวได้ สกอร์ค่อย ๆ ๆไหลไปที่ละน้อย จนมาอยู่ที่ 28-24 เมื่อแดงหมดโต๊ะ โดยพนมไพเป็นฝ่ายนำอยู่ 4 แต้ม หลังตบแดงลูกสุดท้าย พนมไพวางสนุ้กฯ และได้ฟาล์วแอนด์มิสจากสมชายมาถึง 4 ครั้ง 18 คะแนน ขึ้นนำเป็น 46-24 แล้วมาเก็บเหลืองกับเขียวเพิ่ม นำไปเป็น 51-24 สมชายต้องการ 1 สนุ้ก และตัดสินใจตบน้ำตาลได้มา 4 แต้ม ไล่มาที่ 28-51 แต่วางสนุ้กฯไม่ได้ พนมไพตบน้ำเงินชนะไปในเฟรมที่ห้านี้ด้วยสกอร์ 56-28 ขึ้นนำสมชายเป็น 3 ต่อ 2 เฟรม

เฟรมที่ 6 เป็นเฟรมที่ใช้เวลาน้อยที่สุด โดยเอ๋ พนม เป็นฝ่ายเข้าเบรคนำไปก่อน 5 ชุดครึ่ง 39 คะแนน แต่มาหลุดดำ ส่งผลให้สมชาย ลุกขึ้นมากดเบรคไม้เดียว 9 ชุด พร้อมไล่สีจากเหลืองถึงน้ำเงิน 80 คะแนน เอาชนะไปในเฟรมที่หก ไล่ตีเสมอได้สำเร็จที่ 3 เฟรมเท่ากัน และต้องหยุดการแข่งขันไว้ เนื่องจากติดคู่ถ่ายทอดสดในเวลา 13.00 น. ทางสยามกีฬาทีวี ต้องกลับมาแข่งกันต่อในเฟรมสุดท้ายหลังจบคู่ถ่ายทอดสดต่อไป

เฟรมที่เจ็ด ที่กลับมาแข่งขันกันต่อ หลังจบคู่ 13.00 น. ชาย โซโห เป็นฝ่ายเปิดเฟรมก่อน และเป็น เอ๋ พนม ที่คุมเกมทำแต้มอยู่เพียงฝ่ายเดียว ด้วยเบรค 24, 14, 19, นำชายไปก่อนถึง 56-0 เมื่อหมดไป 11 แดง เอ๋ พนม แทงดำไม่ลงจ่ออยู่ปากหลุม เปิดโอกาสให้ชายขึ้นมาทำแแต้ม ชายเช็ดแดงหลุมกลางลง วางขาวจะมากินดำ แต่โชคไม่ดี ขาวไปเข้าหลังชมพู กินดำไม่ได้ ได้ไปเพียง 1 คะแนน แล้วมาเสียดำให้เอ๋อีก 1 ชุด ยอมจับมือแพ้ไปในเฟรมนี้อย่างรวดเร็ว ใช้เวลาไปเพียง 18 นาทีเท่านั้น

เอ๋ พนม เข้ารอบรองชนะเลิศ ไปพบกับ ขวัญ สระบุรีต่อไปในวันพรุ่งนี้

 

 

แมน เมืองสมุทร กับแมตช์มาราธอน ที่ใช้เวลาถึง 3 ชั่วโมงครึ่ง

แมน เมืองสมุทร กับแมตช์มาราธอน ที่ใช้เวลาถึง 3 ชั่วโมงครึ่ง

แมน เมืองสมุทร หักคิว รมย์ สุรินทร์ ลิ่วเข้ารอบ 8 เจอตัวเล็ก

สำหรับผลการแข่งขันคู่ 16.00 น. ระหว่าง ประพฤติ ชัยธนสกุล หรือ รมย์ สุรินทร์ พบกับ ประมวล จันทร์ทัด หรือ แมน เมืองสมุทร ในรอบ 16 คน ซึ่ง รมย์ สุรินทร์ ตั้งเป้าที่จะคว้าแชมป์ประเทศไทยปีนี้ให้ได้ เพื่อทำสถิติเป็นนักสอยคิวคนแรกของไทย ที่จะคว้า แกรนด์สแลม 3 แชมป์ประเทศไทย คือ แชมป์พูล 9 ลูก  แชมป์บิลเลียด และแชมป์สนุกเกอร์ประเทศไทยได้ในปีเดียวกัน

ส่วนแมน เมืองสมุทร ลงสนามในฐานะเจ้าของเบรคสูงสุด 141 คะแนน ที่ทำไว้ในการแข่งขันกับ สมพร กันธวัง หรือ เบิ้ม เชียงใหม่ ในรอบ 32 คนสุดท้ายที่ ทีบีซี สนุกเกอร์เซนเตอร์ หัวหมาก เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา

เฟรมแรก ประพฤติเป็นฝ่ายเปิดเฟรม แล้วออกนำไปก่อน 2 ไม้ ที่ 9 และ 22 คะแนน ขึ้นนำไป 31-0 แต่หลังจากนั้น ประมวลเป็นฝ่ายคุมสถานการณ์ได้ทั้งหมด แล้วค่อย ๆ ตอดทีละ 2-3 ชุด กลับมาขึ้นนำไปที่ 59-31 เมื่อถึงลูกเหลือง และเป็นฝ่ายเก็บเขียวไปได้อีก ทำให้ชนะไปในเฟรมแรก 62-31 คะแนน ประมวลขึ้นนำ 1 ต่อ 0 เฟรม

เฟรมที่สอง ประพฤติยังเป็นฝ่ายสตาร์ทออกไปก่อนเช่นเคย โดยได้ฟาล์วมา 2 ไม้พร้อมเบรคย่อย ๆ อีก 21 แต้ม ขึ้นนำไป 29-0 ประมวลได้โอกาสเข้าเบรคตบแดงกินชมพูล้วน ๆ ไป 6 ชุด 42 แต้ม แล้วคุมรูปเกมเอาชนะไปในเฟรมที่สองได้อีก 67-32 นำห่างไปเป็น 2 ต่อ 0 เฟรม

เฟรมที่สาม ประพฤติก็ยังคงเป็นฝ่ายออกสตาร์ทก่อนอีกครั้ง คราวนี้ตบไป 3 ไม้ ไม้ละ 2 ชุด นำไป 32-0 คะแนน ประมวลได้โอกาสไล่ตามมาห่าง ๆ ที่ 32-20 แล้วโดนประพฤติเข้าเบรคอีก 3 ชมพูหนีห่างไปเป็น 53-21 คะแนน ประมวลได้ 2 แดงสุดท้ายแต่กินสีได้เพียงลูกเดีบว แล้วตามด้วยเหลืองในไม้ถัดมา ตามมาที่ 53-32 ต้องตบหมดโต๊ะจากเขียวถึงดำ  แต่ก็เป็น ประพฤติที่เก็บสีจากเขียวถึงชมพูในไม้เดียว เบียดเอาชนะไปได้ด้วยสกอร์ 71-32 ตีตื้นขึ้นมาเป็น 1 ต่อ 2 เฟรม

เฟรมที่สี่  รูปเกมยังเป็นแบบเดิม คือประพฤติเป็นฝ่ายเข้าทำก่อน แล้วนำไปจากการตบแดง-ดำ 4 ชุดครึ่ง 33 แต้ม แล้วยังทำคะแนนนำไปเรื่อย ๆ ถึง 46-8 คะแนน ประมวล ไม่สามารถเข้าเบรคได้ แม้จะตบแดงไปได้อีก 3 ลูก แต่ก็ไม่มีลูกสี แพ้ไปในเฟรมนี้ 14-54 มาเสมอกันอยู่ที่ 2 เฟรมเท่ากัน

เฟรมที่ห้า เป็นเฟรมที่ทั้งสองต่างระวังตัว และไม่มีใครออกนำไปก่อนในช่วงแรก ผ่านไป 4 แดง คะแนนประมวลยังคงนำอยู่เล็กน้อยที่ 11-8 ประพฤติมาจับเบรคแรกได้ 5 ชุด 29 แต้ม นำไปเป็น 37-11 ประมวลมาตีคืนได้อีก 3 ชุดครึ่ง 22 คะแนน แต่เป็นประพฤติที่เก็บเหลืองถึงชมพูได้ในช่วงท้ายเกม เอาชนะไปในเฟรมที่ห้านี้ 58-39 คะแนน ขึ้นนำเป็น 3 ต่อ 2 เฟรม

เฟรมที่หก เป็นเฟรมที่ใช้เวลานานที่สุดกว่าครึ่งชั่วโมง ประมวลเป็นฝ่ายนำไปก่อน 31-7 แล้วมาโดนประพฤติเบรคคืนไป 5 ชุด 34 คะแนน กลับขึ้นมานำ 41-31 และเขยิบไปเป็น 48-31 ประพฤติมาพลาดเหลืองหลุมกลางหลังตบแดงลูกที่ 13 จากขาวติดชิ่ง ทำให้ประมวลเก็บ 2 แดงสุดท้าย แล้วเก็บเหลืองถึงชมพู ชนะไปในเฟรมนี้ 63-48 เสมอกันที่ 3 เฟรมเท่ากัน ต้องไปตัดสินกันในเฟรมสุดท้าย

เฟรมที่เจ็ด ประมวล จันทร์ทัด ออกตัวก่อนด้วยเบรค 4 แดง 4 ดำ 32 แต้ม ประพฤติตามมาห่าง ๆ ที่ 19-32 แล้วโดนประมวลหนีไปอีกเป็น 51-19 แล้วคุมเกมเก็บคะแนนจนชนะไปในเฟรมนี้ 74-29 คะแนน ดับความฝันของประพฤติที่จะคว้า 3 แชมป์ไปในที่สุด

ประมวล จันทร์ทัด จะเข้าไปพบกับ ไพฑูรย์ ผลบุญ ในวันที่ 7 ก.ย. 2555 ในเวลา 19.00 น. ต่อไป

อรรถสิทธิ์ ขณะแข่งขันรอบ 16 คน เรียกผู้ชมเต็มสนาม

อรรถสิทธิ์ ขณะแข่งขันรอบ 16 คน เรียกผู้ชมเต็มสนาม

บิ๊ก สระบุรี ยังร้อนไม่เลิก โค่น เชค นครนายก เข้ารอบ 8 ชน แจ็ค เชียงใหม่

การแข่งขันสนุกเกอร์แสงโสม โคราชคัพ รอบ 16 คนคู่ที่ 5 ซึ่งเป็นรอบถ่ายทอดสดทางสยามกีฬาทีวี ทรูวิชั่นส์ 69 ในวันนี้ เป็นการพบกันระหว่าง อรรถสิทธิ์ มหิทธิ หรือ บิ๊ก สระบุรี มือวางอันดับ 1 ของประเทศไทยคนปัจจุบบัน กับ รัชโยธิน โยธารักษ์ หรือ เชค นครนายก ที่อายุน้อยกว่ากันถึงเท่าตัว

เปิดเฟรมแรก รัชโยธินเข้าเบรคขึ้นนำไปก่อน 4 ชุด 25 คะแนน ในขณะที่อรรถสิทธิ์ ยังเครื่องไม่ร้อน แทงผิดพลาดหลายครั้ง ทำให้รัชโยธินขึ้นนำไปที่ 51-15 แต่อรรถสิทธิ์ก็เก็บแดงลูกสุดท้าย แล้วไล่สีมาถึงชมพู ตามหลังอยู่ที่ 51-56 ต้องชิงดำ ซึ่งรัชโยธินเป็นฝ่ายเก็บชัยไปได้ก่อน ด้วยคะแนน 63-51 ขึ้นนำไปก่อน 1 ต่อ 0 เฟรม

เฟรมที่สอง อรรถสิทธิ์ เป็นฝ่ายจับเบรคได้ก่อน 2 ชุด 30 และ 15 แต้ม นำไป 45-15 คะแนน รัชโยธินมาตีคืนได้ 1 ไม้ ด้วยการตบ 4 ชุดครึ่ง 29 แต้ม ไล่ตามมาสูสีที่ 44-45 เมื่อแดงหมดโต๊ะ ต้องมาชิงลูกสี ซึ่งอรรถสิทธิ์ ใช้ประสพการณ์เบียดเอาชนะไปในเฟรมนี้ ตีเสมอมา 1 ต่อ 1 เฟรม ที่สกอร์ 65-48

เฟรมที่สาม อรรถสิทธิ์ เป็นฝ่ายทำแต้มแต่เพียงผู้เดียว และชนะไปขาดลอย พร้อมเบรค 63 คะแนน ชนะไปในเฟรมนี้ 71-7 ขึ้นนำไปเป็น 2 ต่อ 1 เฟรม

เฟรมที่สี่ รัชโยธิน จับเบรคได้ก่อนบ้าง ตบไป 6 ชุดใหญ่ 32 คะแนน แต่ก็มาโดนอรรถสิทธิ์เบรคกลับไป 2 ชุด 11 กับ 56 คะแนน แล้วเอาชนะไปในเฟรมนี้ 74-34 ขึ้นนำไปเป็น 3 ต่อ 1 เฟรม

เฟรมที่ห้า รัชโยธินออกก่อนเช่นเคย แต่ไปได้แค่ 2 ชุดเล็ก ๆ นำไปแค่ 28-0 อรรถสิทธิ์มาได้ดำ 2 ชุด ไล่มา 16-28 แล้วโดนรัชโยธินเขยิบห่างไปด้วยเบรคอีก 31 แต้ม หนีไปเป็น 59-16 ช่วงท้ายเฟรม อรรถสิทธิ์ไล่ตามมาที่ 35-59 แต่เป็นรัชโยธิน ที่เก็บเฟรมนี้ไปได้ ด้วยสกอร์ 64-39 ไล่ตามมาเป็น 2 ต่อ 3 เฟรม

เฟรมที่หก อรรถสิทธิ์ ที่เครื่องติดแล้ว กดเบรคไม้เดียว 11 ชุด 83 แต้ม เกือบทำเซ็นจูรี่เบรค พลาดรางวัลเงินสด 2,000 บาทจากประธานสโมสรกีฬาบิลเลียดสนุกเกอร์ จังหวัดนครราชสีมา นายทอง วิริยะจารุ ไปอย่างน่าเสียดาย แต่เอาชนะเฟรมและแมตช์ได้ด้วยสกอร์ 83-0 และ 4 ต่อ 2 เฟรม เข้าไปพบคู่ชิงที่ จ.อุบลราชธานี สุพจน์ แสนหล้า ในวันที่ 7 ก.ย. เวลา 16.00 น.

สมชาย กาวสำราญ ผ่านเข้ารอบ 8 คน ชน พนมไพ พ่อวิเศษ

สมชาย กาวสำราญ ผ่านเข้ารอบ 8 คน ชน พนมไพ พ่อวิเศษ

โก๋ โคราช ครวญ เกมตามตลอดทุกเฟรม แต่ก็สู้จนชนะใจชาวโคราช

ผลการแข่งขันรอบ 16 คนคู่ที่ 4 เป็นการพบกันระหว่าง สมชาย กาวสำราญ หรือ ชายโซโห ลงสนามพบนักสนุกเกอร์ขวัญใจชาวโคราช นคร ชาพล ที่เอาชนะ ปรมินทร์ ด่านจิรกุล มาในรอบ 32 คนวานนี้ โดยมีแฟนสนุกเกอร์เจ้าถิ่นเข้ามาให้กำลังใจกันคึกคัก

เปิดเฟรมแรก นคร ชาพล ออกนำไปก่อนเล็กน้อย 14-0 คะแนน สมชายมาเข้าเบรคได้ชุดแรก 5 แดง 4 ดำ กลับขึ้นมานำ 33-14 คะแนน นคร โต้กลับในไม้ต่อมา ตบไปอีก 5 ชุด 29 คะแนน กลับมานำ 43-33 แล้วเก็บอีก 2 ชุด น้ำเงินกับดำ นำห่างไปเป็น 57-33 สมชายมาปล้นได้ในช่วงสุดท้าย ด้วยการตบแดงลูกสุดท้าย กินน้ำเงิน แล้วกวาดลูกสีหมดโต๊ะทำไปอีก 33 คะแนนเท่าเบรคแรก เฉือนเอาชนะไปก่อน 66-57 นำไป 1 ต่อ 0 เฟรม

เฟรมที่สอง  สมชาย เป็นฝ่ายออกหน้าไปก่อนบ้าง เข้าเบรคชุดเล็ก 5 ชุด ทำไปก่อน 25 คะแนน นคร ไล่เก็บชุดดำไป 3 ชุด กลับขึ้นมานำทีี 29-25 แล้วมาโดนสมชายเข้าเบรคยาวอีกครั้ง 5 ชุดใหญ่ 39 คะแนน เอาชนะไปอีกด้วยคะแนน 64-29 ขึ้นนำโก๋ โคราชไป 2 ต่อ 0 เฟรม

เฟรมที่สาม สมชายทำท่าจะนำห่างต่อเนื่อง เข้าเบรค 29 คะแนนในไม้แรก แล้วนำไปที่ 38-0 หลังผ่านไป 7 แดง โก๋ โคราช มาตีคืนได้ด้วยเบรคยาว 8 ชุดรวมทั้งเหลืองถึงน้ำตาล กลับขึ้นมานำ 59-38 สมชายต้องเก็บสีที่เหลืออีก 3 ลูกให้หมด และได้น้ำเงินไป แต่มาเสียชมพู ทำให้โก๋ตีคืนมาได้ในเฟรมนี้ 65-43 ไล่ตามมาเป็น 1 ต่อ 2 เฟรม

เฟรมที่สี่ ทั้งสองฝ่ายผลัดกันรุกผลัดกันรับ สมชายออกหน้าไปก่อนเล็กน้อยด้วย 1 ชุดดำ นครโต้กลับไป 2 ชุดดำ กลับมานำ 16-8 สมชายเก็บน้ำเงินกับดำไปอีก 14 คะแนน กลับมานำ 22-16 แต่นครก็กลับมานำอีกครั้งที่ 25-22 สมชายมาเก็บชุดย่อมในไม้ต่อไปได้ 4 ชุดครึ่ง 29 แต้ม ขึ้นนำไปที่ 51-25 นครก็ไม่ยอมให้หนีห่าง ไล่ตามมาอีกด้วยเบรค 2 ชุดครึ่ง 17 แต้ม ตามมาที่ 42-51 แต่ในช่วงลูกสี สมชายเป็นฝ่ายเก็บเหลืองถึงน้ำตาล และตามเก็บน้ำเงินได้อีก 1 ไม้ ชนะไปในเฟรมนี้ 65-42 ขึ้นแท่นไปที่ 3 ต่อ 1 เฟรม

เฟรมที่ห้า สมชาย เป็นฝ่ายนำไปก่อนและทำท่าจะปิดแมตช์ได้อย่างรวดเร็ว หลังกดเบรคไป 33 แต้ม ขึ้นนำไป 39-12 แต่ นคร ก็ไม่ยอมถอดคิวง่าย ๆ กดคืน 7 ชุดใหญ่ 52 คะแนน กลับมาขึ้นนำ 64-39 สมชายเก็บแดงลูกสุดท้ายได้ แต่นครก็ไล่เก็บตั้งแต่เหลืองถึงดำไปอีก 27 แต้ม เอาชนะไป 91-40 ไล่ตามมาเป็น 2-3 เฟรม

เฟรมที่หก สมชายก็ยังคงออกนำไปก่อนเช่นเคย42-0 คะแนน นคร ไล่ตามมาเป็น 26-42 แล้วโดนทิ้งห่างไปอีกที่ 52-26 เมื่อเหลือ 3 แดงสุดท้าย นครเก็บได้ทั้งหมดแล้วตามไล่สีจนถึงน้ำเงิน มาทันกันที่ 51-52  สมชายเก็บชมพู นำไปเป็น 7 แต้ม ทำให้นครได้แค่ชิงเสมอ และก็เก็บดำไปได้ ที่ 58-58 ต้องมาตั้งดำเล่นกันใหม่ และก็เป็นนคร ที่ตบดำหลุมยาวลงไปท่ามกลางเสียงเฮของแฟนสนุกเกอร์ชาวโคราชรอบสนาม ต้องมาตัดสินกันในเฟรมสุดท้าย

เฟรมที่เจ็ด สมชายไม่เปิดโอกาสให้นครได้สู้ เก็บคะแนนนำไปก่อนด้วยเบรค 37 คะแนน แล้วออกนำไปถึง 45-1 นครไล่ตามมาที่ 16-45 แต่ก็เป็นสมชาย ที่คุมเกมเอาชนะไปได้ในที่สุด หักอกแฟนสนุกเกอร์ชาวโคราชที่มาลุ้นรอบสนาม 

ขวัญ สระบุรี เข้ารอบ 8 ปะทะ อิศ จันท์ หลังโค่น นุ๊ก จันท์ 4-0 เฟรม

ขวัญ สระบุรี เข้ารอบ 8 ปะทะ อิศ จันท์ หลังโค่น นุ๊ก จันท์ 4-0 เฟรม

ขวัญ พุ่มแจ้ง ลอยลำเข้ารอบ 8 ชนะ นุ๊ก จันท์ แบบไข่ไม่แตกอีกคู่

การแข่งขันรอบ 16 คนคู่ที่ 3 ในรอบ 16.00 น. วันนี้ เป็นการพบกันระหว่าง สุชาครีย์ พุ่มแจ้ง หรือ ขวัญ สระบุรี ที่พาคุณแม่มานั่งเชียร์ถึงขอบสนามเป็นครั้งแรก ลงดวลคิวกับ ยุทธภพ ภาคพจน์ หรือ นุ๊ก จันท์ มืออันดับ 12 ของประเทศ

เฟรมแรก ขวัญ เข้าเบรคออกนำไปก่อน 4 ชุดดำ 32 แต้ม นุ๊ก ตามมาห่าง ๆ ที่ 32-20 แล้วมาเสียฟาล์วอีก 4 คะแนน เปิดโอกาสให้ขวัญเข้าเบรคยาวอีกไม้ 6 ชุด 43 แต้ม ชนะไปก่อนในเฟรมแรก 79-20 นำไปก่อน 1 ต่อ 0 เฟรม

เฟรมที่สอง ขวัญ ยังคงออกคิวได้ดี นำไปก่อนอีกหลังตบชุดเล็กไป 4 ชุดครึ่ง 18 แต้ม นุ๊ก ไล่มาขึ้นนำที่ 21-18 แล้วมาทันกันที่ 21 เท่า ก่อนที่นุ๊กจะตบแดงกินน้ำตาล ตามด้วยชุดชมพูกับอีก 1 แดง 13 แต้ม ขึ้นนำขวัญไป 34-21 เหลือ 3 แดงบนโต๊ะ  ขวัญ เป็นฝ่ายเก็บแดงได้ทั้ง 3 ลูก ขึ้นนำไปที่ 43-34 แล้วมาไล่สีอีก 2 ไม้ จากเหลืองถึงน้ำตาล และน้ำเงินกับชมพู เอาชนะไปอีกด้วยสกอร์ 54-34 ขึ้นนำเป็น 2-0 เฟรม

เฟรมที่สาม ยังคงเป็นขวัญ ที่นำไปอีกจากเบรค 20 คะแนน นุ๊กไล่มาที่ 18-21 ก่อนที่ขวัญจะเป็นฝ่ายเก็บชัยชนะไปจากไม้ย่อย ๆ อีก 4 ไม้ ชนะไปด้วยคะแนน 52-18 นำโด่งเป็น 3 ต่อ 0 เฟรม

เฟรมที่สี่ ซึ่งเป็นเฟรมสุดท้ายของฤดูกาลนี้ของนุ๊ก จันท์ ที่โดนขวัญเข้าเบรคไม้เดียว 8 ชุดครึ่ง 60 แต้ม นำไปถึง 62-4 นุ๊กตามเก็บมาได้อีก 3 ชุดดำ 24 แต้ม แต่ก็ไม่พอ หลังตบแดงสุดท้ายแล้วไม่ได้สี ทำให้แต้มขาดไปถึง 2 ลอย และยอมแพ้ไปในทีสุด ที่สกอร์ 62-29

ขวัญ สระบุรี เข้ารอบ 8 คนสุดท้ายไปพบกับ อิศรา กะไชยวงษ์ ในวันที่ 7 ก.ย. นี้ต่อไป

 

ตัวเล็ก สำโรง ขณะเข้าเบรค 78 แต้มในเฟรมที่ 4

ตัวเล็ก สำโรง ขณะเข้าเบรค 78 แต้มในเฟรมที่ 4

คู่ที่ 3 หมู ปากน้ำ หัวคิวชื้น คุมขาวไม่ได้ แพ้ ตัวเล็ก สำโรง ไปแบบไข่ไม่แตก

คู่ที่ 3 เป็นคู่เอกของวันนี้ มี นายชัยยงค์ ฮมภิรมย์ นายอำเภอเมืองนครราชสีมา ให้เกียรติมาเปิดการแข่งขัน และมีการถ่ายทอดสดทางสยามกีฬาทีวี ทรูวิชั่นส์ 69 เช่นเคย โดยในพิธีเปิด เลขานุการสโมสรกีฬาสนุกเกอร์-บิลเลียด จ.นครราชสีมา นายสมศักดิ์ จักสาน เป็นผู้กล่าวรายงาน 

การแข่งขันคู่พิธีเปิด เป็นการพบกันระหว่าง มือวางอันดับสองของประเทศ นพพล แสงคำ หรือ หมู ปากน้ำ ที่สร้างผลงานคว้าแชมป์รายการที่ 3 ในปีนี้ที่ จ.นครสวรรค์มาเมื่อเดือนมีนาคม และรองแชมป์อีก 1 รายการที่ จ.สงขลา เมื่อต้นปีนี้ พบกับ อดีตเจ้าของ 3 เหรียญทองกีฬาซีเกมส์ที่นครราชสีมานี้ เมื่อปี 2550 ไพฑูรย์ ผลบุญ หรือ ตัวเล็ก สำโรง

เฟรมแรก  นพพล แสงคำ เป็นฝ่ายออกนำไปก่อน 42-7 แต่ก็ยังไม่มีเบรคยาว ตัวเล็ก สำโรง มาจับเบรคแรกได้ 5 ชุดครึ่ง 35 แต้ม มาเสมอกันที่ 42-42 แล้วเก็บเหลืองถึงน้ำเงิน นำไปที่ 56-42 นพพล พยายามวางสนุ้กชมพูหลังดำ ที่อยู่ติดชิ่งอยู่หลายครั้ง แต่วางไม่เข้า ทำให้ตัวเล็ก เก็บชมพู เอาชนะไปก่อนในเฟรมแรก 62-42 ขึ้นนำไป 1 ต่อ 0 เฟรม

เฟรมที่สอง ตัวเล็ก คุมเกมได้ตั้งแต่แรก กดเบรคย่อม ๆ ไป 2 เบรค 24 และ 20 แต้ม ขึ้นนำหมูไป 45-9 แล้วตามด้วยดำอีก 1 ชุด นำไป 53-9 โดยเหลือเพียงแดงเดียว 35 แต้มบนโต๊ะ หมู มาเสียฟาล์วอีก 4 แต้ม ทำให้ตัวเล็ก ชนะไปในเฟรมที่สอง 57-9 ขึ้นนำเป็น 2 ต่อ 0 เฟรม

เฟรมที่สาม ตัวเล็ก เครื่องร้อน เข้าเบรคไม้เดียว 9 ชุด 65 แต้ม ขึ้นนำโด่งไปก่อน 69-1 คะแนน หมู ตามมาห่าง ๆ หลังกดไป 4 แดง 4 ดำ 32 แต้ม ตามด้วยอีก 1 ชุดดำ ไล่มาเป็น 41-69 เมื่อหมดแดงลูกสุดท้าย ขาดลอย 1 แต้ม ตัวเล็กเก็บเหลือง ขึ้นนำไปอีก 71-41 หมูต้องวางสนุ้กฯ และตัดสินใจเก็บเขียวและน้ำตาล เพื่อจะมาวางสนุ้กน้ำเงิน ไล่มาเป็น 48-71 ตามหลังอยู่ 23แต้ม บนโต๊ะเหลือ 18 เป็นรอง 1 สนุ้กเพื่อชิงเสมอ และก็เป็นตัวเล็กที่เก็บน้ำเงิน-ชมพู เอาชนะไปอีกในเฟรมที่ 3 ด้วยสกอร์ 82-48 ขึ้นนำโด่งเป็น 3 ต่อ 0 เฟรม

เฟรมที่สี่ หมู ปากน้ำหลังชนฝา แต่ก็ยังคุมขาวไม่ได้ มาโดนตัวเล็กกดเบรคไม้เดียว 11 ชุด 78 แต้ม ชนะไปขาดลอย 83-13 คะแนน เข้ารอบ 8 คนไปด้วยสกอร์ 4-0 เฟรม ไปรอพบผู้ชนะระหว่าง ประมวล จันทร์ทัด และ ประพฤติ ชัยธนสกุล ต่อไป

สำหรับการแข่งขันรายการนี้ ประธานสโมสรกีฬาบิลเลียด-สนุกเกอร์จังหวัดนครราชสีมา นายทอง วิริยะจารุ มีรางวัลเซ็นจูรี่เบรค 100 คะแนน ให้กับนักกีฬาที่สามารถทำเบรคถึง 100 แต้มในไม้เดียวได้ เฟรมละ 2,000 บาทอีกด้วย 

เอ๋ พนม ขณะลงดวลคิวกับ สอง วัดพุทธ ในรอบ 16 คนคู่แรก

เอ๋ พนม ขณะลงดวลคิวกับ สอง วัดพุทธ ในรอบ 16 คนคู่แรก

สอง วัดพุทธ พ่าย เอ๋ พนม ร่วงรอบ 16 คนเป็นรายแรก

คู่ที่สอง เป็นการพบกันของสายบน ระหว่าง ธัณยธรณ์ ธนพสิฐพงศ์ หรือ สอง วัดพุทธ หนึ่งเดียวของดิวิชั่น 2 ที่หลุดเข้ามาถึงรอบ 16 คนสุดท้ายในรายการนี้ ลงดวลคิวกับ พนมไพ พ่อวิเศษ หรือ เอ๋ พนม นักสอยคิวดีกรี 8 คนสุดท้าย แสงโสม 6 แดงชิงแชมป์โลกที่โรงแรมมณเฑียรริเวอร์ไซด์ เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา 

เฟรมแรก เอ๋ พนม เป็นฝ่ายเอาชนะไปได้ก่อน ด้วยการทำเบรค 39 แต้ม ตามด้วยเบรคย่อย ๆ อีกหลายไม้ ขึ้นนำไปถึง 62-4 เหลือ 5 แดงบนโต๊ะ สอง ลุกขึ้นมาตบแดงไปได้แดงเดียว แต่กินสีไม่ได้ โดนเอ๋หนีไปอีกเป็น 70-5 เมื่อเหลือ 2 แดงสุดท้าย สอง ได้แต่เพียงลุกขึ้นมาออกคิว โดยตบไป 2 แดงพร้อมกับไล่เหลืองถึงน้ำเงิน 26 แต้ม แพ้ไปในเฟรมแรกด้วยสกอร์ 31-70 เอ๋ ขึ้นนำไปก่อน 1 ต่อ 0 เฟรม

เฟรมที่สอง เอ๋ พนม เป็นฝ่ายออกนำก่อนเช่นเดิม ด้วยเบรค 25 และ 24 แต้ม นำไปก่อนที่ 49-0 คะแนน สองเก็บ 2 ชุดดำไล่ตามมาเป็น 16-49 แล้วโดน เอ๋ หนีไปอีก 1 ชุดดำที่ 57-16 สองไล่เก็บ 4 แดงสุดท้ายอีก 26 แต้ม ตามมาที่ 42-57 เมื่อถึงลูกสี และสามารถเก็บเหลืองถึงน้ำเงิน ตามมาสูสีกันที่ 56-57 ต้องชิงดำ แต่เป็น เอ๋ พนม ที่ตบชมพู-ดำไปได้ในที่สุด ชนะไปแบบสูสีที่ 70-56 ขึ้นนำเป็น 2 ต่อ 0 เฟรม

เฟรมที่สาม ธัณยธรณ์ เป็นฝ่ายเก็บชัยชนะในเฟรมนี้ได้ ด้วยเบรค 30, 16 และ 23 แต้ม ชนะไปขาดลอย 77-5 คะแนน ตามมาเป็น 1 ต่อ 2 เฟรม

เฟรมที่สี่ สอง วัดพุทธ ยังคงออกนำไปอีก ด้วยการตบสลับวางสนุ้กฯ ขึ้นนำไปที่ 28-0 คะแนน เอ๋ เก็บ แดง-ดำ 3 ชุด 24 แต้มไล่มาสูสี แล้วนำต่อไปถึง 36-28 จากการได้ฟาวล์อีก 2 ไม้ต่อมา ในช่วงสุดท้าย สอง เก็บเบรค 5 แดงสุดท้ายถึงเหลือง 39 แต้ม ชนะไปขาดลอยในเฟรมนี้ที่ 67-36 แต้ม ตีเสมอได้ที่ 2 เฟรมเท่ากัน

เฟรมที่ห้า เอ๋ พนม เข้าเบรคยาว 58 แต้ม แล้วนำไปถึง 72-14 เมื่อเหลือ 2 แดงสุดท้าย สอง วัดพุทธ ลุกขึ้นมาออกคิวอีกครั้ง หลังถูกจับนั่งอยู่นาน แต่ก็ได้ไปเพียง 1 ชุดชมพู แพ้ไปในเฟรมนี้ 25-78 เอ๋ พนม ขึ้นแท่นไปก่อนที่ 3 ต่อ 2 เฟรม

เฟรมที่หก เป็นเฟรมที่สูสี ต่างฝ่ายต่างระวังตัว และป้องกันกันสุดฤทธิ์ รวมทั้งมีการเปลี่ยนแผนมาเป็นวางสนุ้กฯ ทำให้ สอง วัดพุทธ มีแต้ในำไปก่อนที่ 28-18 แล้วมาสูสีกันที่ 35-34 โดยที่สองเป็นฝ่ายนำเพียง 1 แต้ม เมื่อเหลือ 2 แดงสุดท้าย เอ๋ ตบแดงแล้ววางสนุ้ก สองแก้ไม่โดน เสียฟาล์วแอนด์มิสไปถึง 8 ครั้ง 37 แต้ม ทำให้เอ๋ กลับขึ้นไปนำถึง 71-35 และชนะไปในที่สุด 76-35 เมื่อตบแดงลูกสุดท้าย ปิดแมตช์เอาชนะ สอง วัดพุทธไป 4 ต่อ 2 เฟรม เข้าไปรอพบผู้ชนะ ระหว่าง นคร ชาพล และ สมชาย กาวสำราญ ที่จะแข่งขันกันในเวลา 19.00 น. วันที่ 5 ก.ย. นี้ต่อไป

 

นคร ชาพล บรรจงสาวคิวตบลูก ก่อนเอาชนะ ปรมินทร์ ด่านจิรกุล ไปในรอบ 32 คนสุดท้าย

นคร ชาพล บรรจงสาวคิวตบลูก ก่อนเอาชนะ ปรมินทร์ ด่านจิรกุล ไปในรอบ 32 คนสุดท้าย

รอบ 32 คน โก๋ โคราช หักคิว นุ๊ก คอนหวัน ท่ามกลางกองเชียร์คับคั่ง

ศึกแสงโสม โคราช คัพ สนุกเกอร์ชิงแชมป์ประเทศไทย ประจำปี 2555 ดิวิชั่น 1 รายการที่ 7 รอบ 16 คนสุดท้าย เริ่มขึ้นแล้วที่ห้อง Event Hall ชั้น 7 ห้างสรรพสินค้าคลังพลาซ่า จอมสุรางค์ จังหวัดนครราชสีมา  โดยในคู่เปิดสนาม เป็นการพบกันในรอบ 32 คน ที่ยกมาแข่งที่นี่ เพราะมีนักกีฬาขวัญใจชาวโคราช นคร ชาพล หรือ โก๋ โคราช ลงสนามพบกับ ปรมินทร์ ด่านจิรกุล หรือ นุ๊ก คอนหวัน มือวางอันดับ 9 ของประเทศ

เปืดเฟรมแรก นคร ชาพล เป็นฝ่ายเปิดเฟรมก่อน แล้วแทงไป 3 ไม้ๆละ 1 ชุด มี 2 ดำ 1 น้ำเงิน ออกนำไปในช่วงแรก 21-7 คะแนน แล้วเก็บเบรคสั้น ๆ 20 และ 17 แต้ม ขึ้นนำไปอีกที่ 58-7 ก่อนจะปิดเฟรมแรกไปด้วยสกอร์ 63-7 ขึ้นนำไปก่อน 1-0 เฟรม

เฟรมที่สอง ปรมินทร์ตีคืนมาได้ แต่ก็ไม่มีใครสามารถเข้าเบรคยาว ๆ ได้เกิน 3 ชุด ปรมินทร์ชนะไปขาดลอยในเฟรมที่ 2 ด้วยคะแนน 54-19 มาเสมอกันที่ 1-1 เฟรม

เฟรมที่สาม เป็นเฟรมแรกที่คะแนนออกมาสูสี โดยนครเป็นฝ่ายขึ้นนำไปก่อน 19-1 แต่มาโดนปรมินทร์กดเบรคยาวไม้เดียว 7 ชุด 54 แต้ม กลับมานำเป็น 55-19 และทำท่าจะปิดเฟรมได้ แต่พอปรมินทร์พลาดแดงลูกที่ 8 นคร ชาพลก็กวาดไม้เดียว 3 แดงและเหลืองถึงดำ ทำไป 48 แต้ม ปล้นชัยชนะไปสุดสวย ด้วยสกอร์ 67-55 ขึ้นนำเป็น 2 ต่อ 1 เฟรม

เฟรมที่สี่ เป็นเฟรมที่ปรมินทร์ตีคืนมาได้อีกอย่างขาดลอยอีกครั้ง ด้วยการเก็บเล็กผสมน้อย มีเบรคไม่เกินไม้ละ 2 ชุด ชนะไปหลังจากเก็บเหลืองถึงน้ำเงิน ด้วยสกอร์ 64-19 มาเสมอกันอยู่ที่ 2 เฟรมเท่ากัน

เฟรมที่ห้า ปรมินทร์ ทำท่าจะใส่เกียร์ห้า ออกมากดไม้แรก 31 แต้ม ขึ้นนำไป 31-8 แล้วคุมเกมในเฟรมนี้ได้อย่างต่อเนื่อง ชนะไปอีกในเฟรมนี้ที่ 74-10 ขึ้นแท่นนำโก๋ โคราชไป 3-2 เฟรม เล่นเอาแฟนชาวโคราชที่มาเป็นกำลังใจให้ โก๋ โคราช ถึงกับเงียบกันไป

เฟรมที่หก ปรมินทร์ออกหน้าไปก่อนเช่่นเคย และนำไปก่อน 21-8 แล้วมาโดนโก๋กดเบรคยาว 9 ชุด 65 แต้ม เอาชนะไปในไม้เดียวด้วยสกอร์ 73-21 ทำให้เกมยังไม่จบ ต้องมาแข่งกันต่อในเฟรมสุดท้าย ท่ามกลางเสียงเฮของชาวโคราช

เฟรมที่เจ็ด ซึ่งเป็นเฟรมชี้ชะตาว่าใครจะอยู่ใครจะไป  โก๋ โคราช กดเบรคขึ้นนำไปก่อนในช่วงแรก 4 ชุด 25 แต้ม ปรมินทร์ตามมาติด ๆ ด้วยการแทง 2 ไม้ กลับมาขึ้นนำไปสูสีที่ 29-25 ก่อนจะถูก โก๋ โคราช ตีจากไปอีกไม้เดียว 38 แต้ม ขึ้นมานำไปเป็น 63-29 ที่สำคัญคือแต้มขาดลอยในขณะที่เหลือบนโต๊ะอยู่ 43 แต้ม ปรมินทร์พยายามขึ้นมาวางสนุ้กฯ แต่ไม่เป็นผล และโก๋ เก็บแดงได้อีก 1 ชุด ทำให้ปรมินทร์ลุกขึ้นมาจับมือ ยอมแพ้ไปในที่สุด ด้วยสกอร์ 71-29 สกอร์รวม 4-2 เฟรม

จากชัยชนะในนัดนี้ ทำให้ โก๋ โคราช ลอยลำเข้ารอบ 16 คนสุดท้าย จะพบกับ สมชาย กาวสำราญ ในเวลา 19.00 น. คืนวันที่ 5 ก.ย. นี้

 

Go to www.cuethong.com